อาชญากรรม

หนุ่มขี่จยย.หัวร้อนรถบรรทุกตู้ทึบตัดหน้า ตะโกนให้ของลับ แต่อีกฝ่ายเป็นมวย ซัดน่วมกองกับพื้น

โดย chutikan_o

23 มิ.ย. 2567

288 views

ตู้ทึบปะทะมอเตอร์ไซค์ หนุ่มขี่จยย.หัวร้อนโดนตัดหน้า ตะโกนให้ของลับ แต่อีกฝ่ายเป็นมวย ซัดจนน่วมกองกับพื้น ขณะคนขับตู้ทึบโดนดึงสร้อยคอขาด

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. 2567 ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยที่ดินไทย ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ในที่เกิดเหตุพบนายจักรกฤษ โพคะวัฒน์ อายุ 22 ปี นอนอยู่กับพื้น มีบาดแผลที่หน้าผากและตามร่างกาย ในสภาพค่อนข้างน่วมจากการถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางพลี ในที่เกิดยังพบนายวิกรม อโศกวัฒนะ อายุ 45 ปี คู่กรณี ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ ในมือถือสร้อยคอและพระที่ถูกคนเจ็บดึงจนขาด

ภาพจากกล้องหน้ารถตู้ทึบคันหนึ่งจับภาพได้บางช่วง เผยภาพคนขับรถตู้ทึบจอดรถมีปัญหากับชายวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มมีปากเสียงและชกต่อยกัน โดยมีภรรยาของคนขับรถตู้ทึบพยายามตะโกนถามอีกฝ่ายว่าทำไมต้องดึงสร้อย แต่ก็ไม่ได้เข้าห้ามปรามทั้งสองคนแต่อย่างใด ทั้งคู่ซัดกันข้างรถกระทั่งยื้อยุดกระชากกันไปมา บางช่วงจะได้ยินเสียงของชายวัยรุ่นเสื้อแดง พูดกับคนขับรถตู้ทึบว่าทำไมเลี้ยวออกมาจากซอยไม่มองรถเขา หากชนมาจะทำอย่างไร รับผิดชอบไหวไหม ซึ่งทั้งคู่ยังคงใช้มือค้ำคอกันไปมา ท่ามกลางรถประชาชนที่ใช้เส้นทางผ่านไปมา

คนขับรถบรรทุกสี่ล้อตู้ทึบ กล่าวว่า ขับรถออกมาจากคลังสินค้า พอเลี้ยวซ้ายถนนเทพารักษ์ ปรากฏว่ามีคนขับรถจักรยานยนต์ตะโกนให้กล้วย จากนั้นก็ขับตามเข้ามาในซอยจนกระทั่งลงไปพูดคุยแต่กลับถูกอีกฝ่ายชกเข้าที่ใบหน้าจึงเกิดการต่อสู้กันแล้วถูกอีกฝ่ายดึงสร้อยคอจนขาด

ด้านนางสาวปรียาภรณ์ ศิริวรสมบัติ อายุ 47 ปี ภรรยาของนายวิกรม กล่าวว่า หลังจากที่ขับรถเข้าซอยมาได้ไม่ไกล คู่กรณีก็มาดักรอจนชกต่อยกัน ระหว่างที่ทั้งสองคนใช้มือค้ำคอกัน อีกฝ่ายดึงสร้อยจนขาด ตอนนั้นเธอเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าคู่กรณีจะคว้าสร้อยหลบหนีจึงรีบลงไปจากรถไปช่วย จนอีกฝ่ายถูกสามีต่อยลงไปกองกับพื้น ส่วนสาเหตุเขาอ้างว่าสามีขับรถตัดหน้าเขา จึงขับตามมาตะโกนให้ของลับ สามีเลยจอดรถลงไปเคลียร์จนชกต่อยกัน

เบื้องต้นตำรวจ เชิญคนขับรถบรรทุกสี่ล้อตู้ทึบและภรรยาไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.บางพลี พร้อมทั้งจะสอบปากคำผู้ได้บาดเจ็บอีกครั้งหลังจากรักษาตัวออกจากโรงพยาบาลแล้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News