อาชญากรรม

แทบทรุด! เก็บเงินทั้งชีวิต ถูกแอบถอนสูญเกือบ 3 แสน เหลือติดบัญชี 16 บาท คาดฝีมืออดีตสะใภ้

โดย nut_p

21 เม.ย. 2567

489 views

เข่าแทบทรุด! หญิงวัย 58 ปี เก็บเงินมาทั้งชีวิต ถูกแอบถอน 20 ครั้ง สูญเกือบ 3 แสนบาท เหลือติดบัญชีไว้ให้ 16 บาท คาดฝีมืออดีตสะใภ้ ที่รู้รหัสบัตรเอทีเอ็ม



วันนี้ (21 เมษายน 2567) นางแช่มช้อย อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป พร้อมด้วยนางสาวณัฐสุดา อายุ 36 ปี ลูกสาว และลูกเขย ชาวอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าว โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารใบแจ้งความ สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย และเอกสารการทำบัญชีย้อนหลังพบว่า เงินในบัญชีธนาคารกรุงไทย 290,000 บาท ได้หายเกือบเกลี้ยงบัญชี เหลือให้ดูต่างหน้าเพียง 16.69 บาท



นางแช่มช้อย เผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ได้ไปปรับสมุดบัญชี ที่ธนาคาร และต้องการที่จะเบิกเงินมาเป็นค่าเทอมให้กับหลานอายุ 3 ขวบ เพื่อเตรียมเข้าอนุบาล 1 และหลานอีกคนหนึ่งที่จะเข้าปริญญาตรี ก่อนจะพบว่าเงินในบัญชีเหลือแค่ 16.69 บาท นาทีนั้นเขาแทบทรุด ลมแทบจับ หูอื้อไปหมด เพราะไม่รู้ว่าเงินหายไปไหน ซึ่งเป็นเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต จำได้ว่าได้ถอนครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 20,000 บาท และเหลือเงินอยู่ 290,000 บาท โดยลูกสาวเป็นคนพาไป ซึ่งใช้กดกับตู้ธนาคาร หลังจากนั้นก็เก็บบัตรกดเงินไว้อย่างดี ก่อนจะมารู้อีกทีว่าบัตรหายไป



ก่อนหน้านั้นเคยให้ลูกสะใภ้ไปกดเงิน จึงมีแค่สองคนเท่านั้น ที่รู้รหัสบัตรเอทีเอ็ม จึงได้มีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการปรับสมุดบัญชี พบว่าเงินเริ่มถูกถอน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 จนมาถึงเดือนมกราคม 2567 จำนวน 20 ครั้ง ครั้งละ 10,000 ถึง 20,000 บาท โดยยอดสุดท้ายที่มีการถูกกดออกไป จำนวน 800 บาท เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา และมารู้ตัวว่าเงินหาย เมื่อวันที่ 18 เมษายน



นางแช่มช้อย เผยอีกว่า ตนเองสงสัยลูกสะใภ้ เคยอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ระยะหลังมักจะทะเลาะกับลูกชาย และได้เลิกรากัน ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 1 คน จึงอยากให้ตำรวจ ช่วยติดตามหาคนผิดมาลงโทษให้ได้



นางสาวณัฐสุดา ลูกสาว ยืนยันว่าได้พาแม่ไปกดเงินจริง ครั้งล่าสุดเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ไปกดเงินอีกเลย ซึ่งตนอยากให้ตรวจสอบ ทั้งตนเองและสะใภ้ และตามหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ซึ่งได้มีการไปถอนเงินออกตามตู้ธนาคารกรุงไทย ภายในอำเภอสีคิ้วจำนวนหลายตู้ แต่ตู้กดเงินธนาคารสามารถที่จะบันทึกภาพคนกดเงินได้เพียงแค่ 60 วัน จึงไม่สามารถที่จะเห็นหน้าคนร้ายได้ อยากให้ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ รวมถึงตนเองด้วย เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้กับแม่ โดยเงินดังกล่าวแม่เก็บมาทั้งชีวิต เพื่อใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิต และเลี้ยงหลานที่กำลังจะเข้าอนุบาล 1 และเข้าปริญญาตรี จากการสังเกตตนพบว่าน้องสะใภ้มีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือยในระยะหลัง จึงอยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน เพื่อหาความผิดมาลงโทษให้ได้

คุณอาจสนใจ

Related News