ด.ต.ซิ่งเก๋ง เสยท้ายรถเมล์-ถอยชนรถชาวบ้าน เผยมีอาการคล้ายเมา รอผลตรวจเลือด

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สารวัตร(สอบสวน)สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ และถอยหลังไปชนรถที่จอดข้างทาง 2 คันได้รับความเสียหาย บริเวณจุดเกิดเหตุถนนนครเขื่อนขันธ์ ใกล้เคียงปากซอยนครเขื่อนขันธ์ 8 ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถโดยสารปรับอากาศ สีน้ำเงิน ทะเบียน 16-6354 กรุงเทพมหานคร เป็นรถโดยสาร ประจำทางปรับอากาศสาย 82 วิ่งระหว่างพระประแดงพาหุรัด จอดอยู่ช่องทางด้านซ้าย และช่วงด้านท้ายรถเมล์พร่องรอยการเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบรถเก๋งสีบรอนซ์เทา ยี่ห้อ toyota รุ่น vios หมายเลขทะเบียน ฌจ 9891 กรุงเทพมหานครพุ่งชนท้ายด้านหน้าของรถเก๋งได้รับความเสียหายกระจกหน้าแตกและช่วงท้ายรถเก๋งมีร่องรอยการเฉี่ยวชน

จากการตรวจสอบพบว่ามีรถกระบะที่จอดอยู่ข้างทางถูกรถเก๋งถอยไปชนได้รับความเสียหายอีก 2 คันหลังเกิดเหตุก็มีคนขับรถเก๋งเดินลงมาจากรถด้วยอาการมึนเมาและทราบชื่อต่อมาคือ ด.ต.พินิจ หมายสม(ดาบงอก) ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.พระประแดง ชาวบ้านจึงเข้าไปถามดาบตำรวจพินิจ โดยอ้างว่าระบบเกียร์ของรถมีปัญหาเกิดขัดข้อง แต่โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวดาบตำรวจพินิจ ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและนำตัวไปตรวจแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 จากนั้นทางตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่จุดเกิดเหตุแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้พอชาวบ้านคู่กรณีทราบว่าเจ้าของรถเก๋งหรือคนขับรถเก๋งเป็นตำรวจจึงเข้ามารุมดูและมีการพูดคุยนี่ตำรวจยังเมาอยู่เลย

พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับ สภ.พระประแดง ได้รับรายงานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อิศรัฐ พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นจึงได้นำตัวดาบงอกไปเจาะเลือดตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ต้องรอผลตรวจภายใน 15 วัน หากผลตรวจออกมาพบว่าดาบงอก มีความผิดจริงก็ดำเนินการตามกฎหมายส่วนวินัย จัดตั้งธุรการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่าผิดจริงก็จะทำการลงโทษทางวินัยเช่น ว่ากล่าวตักเตือนทำทันบน กักขังยามหรือลงโทษเข้าเวร และกักขังทำโทษทางวินัยประมาณ 3 วัน และในช่วงขณะนี้ ด.ต.พินิจ อยู่ในช่วงเข้าอบรมนาย ร้อย 53 โรงเรียนฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1

โดยด.ต.พินิจ ได้เล่าว่า น่าจะเป็นที่ระบบเกียร์ของรถนั้นมีปัญหา ถึงได้ขับชนและถอยหลังเดินหน้าไปชนอีกถึง 3 ครั้ง

ด้านนายพิทยา ศิริสายันห์ อายุ 66 ปี ได้กล่าวว่า ตนเองขับรถโดยสารรับผู้โดยสารตามปกติโดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณแยก นิตยา หรือแยก86 ตนเองรู้สึกว่ามีรถมาชนท้าย จึงจอดรถแล้วลงไปดู ปรากฏว่ามีรถเก๋งมาชนท้าย และอยู่ๆรถคันดังกล่าวได้ถอยหลังไปชนรถจอดข้างทางอีก 2 คัน จากนั้นพุ่งตรงมาที่รถของตนชนซ้ำเข้าไปอีก2ครั้ง จนคนแถวนั้นต้องวิ่งมาดูและบอกให้คนขับรถคันดังกล่าวใส่เกียร์ว่างดึงเบรกมือ และลงจากรถเพื่อความปลอดภัย