แม่วอนล่าแก๊งโจ๋ ยกพวกดักทำร้ายชาวบ้านกลางถนน ลูกชายขี่จยย.ผ่าน ถูกยิงเจ็บ

แม่วอนล่าแก๊งวัยรุ่น จังหวัดสกลนคร ยกพวกดักอยู่บริเวณเกาะกลางและริมถนน ใช้อาวุธคอยทำร้ายชาวบ้านที่สัญจรไปมา ลูกชายไปเที่ยวงานกาชาดกับแฟน ขากลับขี่จยย.ผ่านผ่านจุดกลับรถขี่ ถูกยิงเจ็บ



กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์วันที่ 7 ก.พ.67 เวลา ประมาณ 00.28 น. จับภาพวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณกลางถนนลักษณะเดินวนไปมา ในมือคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธมีด บางช่วงบางตอนเดินไปอยู่ตรงเกาะกลางถนนลักษณะเหมือนจะก่อเหตุ แล้วมีประกายไฟคล้ายแสงจากกระสุนปืน ในกล้องวงจรปิดช่วงเวลา 00.33 น.



วันที่ 8 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เพื่อพบกับผู้ได้รับบาดเจ็บ ชื่อ นายเป้ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เปิดเผยว่าช่วงค่ำวันที่ 6 ก.พ. 67 ตนได้พาน้องและแฟนสาวไปเที่ยวงานกาชาดประจำจังหวัด ขากลับพบกลุ่มวัยจำนวนกว่า 10 คน พร้อมอาวุธมีด อยู่บริเวณริมถนน ช่วงขาออกเมืองสกลนคร ก่อนถึงทางกลับรถใกล้กับปั๊มน้ำมัน บ้านพังขว้างเหนือ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร



โดยพฤติกรรมวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ขว้างไม้ใส่หน้ารถของตน จยย.ที่ขับขี่มา และโดยแขนซ้ายต่อมาหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นใช้ปืนไม่ทราบชนิดยิงมาแขนซ้ายตนตอนนั้นรู้สึกชาๆ จึงรีบบิด จยย.หนี ห่างออกไปไกลกว่า 20 กม. เพื่อเอาชีวิตรอด เห็นว่าไม่มีคนตามจึงจอดพักตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย มีรูกระสุนและรอยช้ำจากของแข็ง แต่โชคดีที่รถไม่เสียหลักและกระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ตอนนี้สภาพจิตใจยังเข้มแข็งมีแค่เจ็บบาดแผลเท่านั้น ห่วงแค่แฟนสาวที่ยังมีอาการตกใจอยู่ ยืนยันไม่เคยมีเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุมาก่อนเพราะที่เกิดเหตุกับที่พักห่างกันมาก



ขณะที่ นางเปิ้ล (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี แม่ของนายเป้ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้พาลูกชายไปรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนตัวลูกชายตนเพิ่งลาพักผ่อนจากค่ายทหาร (ทหารเกณฑ์) ได้เพียงวันเดียว แล้วพาแฟนไปเที่ยวงานประจำจังหวัด และลูกชายยืนยันไม่เคยมีเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มนี้เลย



เบื้องต้นได้ดำเนินการแจ้งความ พร้อมกับนำหลักฐานเป็นคลิปภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ไว้กับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ตาดโตน เรียบร้อย วอน จนท. ตำรวจ เร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายป้องปรามไม่ให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวไปสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน เพราะไปเห็นคอมเมนต์พูดคุยในโซเซียลยังคึกคะนองบอกว่าดีนะไม่ยิงให้ตาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมายเลย