อาชญากรรม

กู้ภัยช่วยเหตุรถชน เจอหนุ่มเมากร่าง อ้างโมโหแทนคนเจ็บ ด่ามาช้า ถือมีดทุบรถ ปรี่จะทำร้าย

โดย nut_p

30 ธ.ค. 2566

171 views

กู้ภัยรุดช่วยเหตุรถชนเสาไฟ เจอหนุ่มเมากร่าง อ้างโมโหแทนคนเจ็บ ด่ามาช้า ไม่รีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ถือมีดบุกทุบรถ ปรี่จะทำร้ายกู้ภัย พลเมืองดีช่วยห้าม


วันที่ 30 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุภายในซอยคู่สร้างซอยย่อยซอยหมอเสริม 2 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำโดยนาย สุทัศน์ ลีพัฒนเมธากุล อายุ 47 ปี นาย กิจพิเชษฐ์ ลีพัฒนเมธากุล อายุ 20 ปี นาง สุรีย์ ลีพัฒนเมธากุล อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สภ.สาขลา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ไปตรวจสอบหรือไปช่วยเหลือที่เกิดเหตุ




ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ yamaha รุ่นมีโอสีแดงดำ จอดล้มอยู่บริเวณตรงจุดเกิดเหตุ และพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นางสาวอุษณีย์ แก้วน้อย อายุ 47 ปี ระหว่างที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีน้ำเงินเอะอะโวยวายต่อว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครด้วยถ้อยคำหยาบคาย



จากนั้นทางด้านนาย สุทัศน์ ได้ลุกขึ้นไปอธิบายให้ชายคนดังกล่าวฟัง ว่าเบื้องต้นการแจ้งเหตุตอนแรกเป็นการแจ้งเหตุผิดที่ทำให้ต้องเสียเวลาจึงมาถึงที่จุดเกิดเหตุช้าซึ่งตนเองก็รีบมาอย่างรวดเร็ว แต่ชายคนดังกล่าวไม่ฟังและมีอาการมึนเมาโวยวายพกมีดที่พกพาในตัวบริเวณเอวจะเข้ามาทำร้ายอาสาสมัครกู้ภัย จนชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุหรือเพื่อนและกู้ภัยส่วนหนึ่งได้เข้าไปควบคุมตัวไว้ และจากนั้นกู้ภัยพ่อแม่ลูกจึงได้ดำเนินการช่วยเหลือคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นอาสากู้ภัยจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ กับชายคนที่ก่อเหตุการณ์



ด้านนายสุทัศน์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตนเป็นอาสาสมัครพร้อมกับภรรยาและลูกมาหลายปีแล้ว และคืนที่วันเกิดเหตุตนได้จอดรถอยู่บริเวณหมู่บ้านสยามนิเวศน์ 1 จนเมื่อเวลาประมาณ 23.10 น จากนั้นจนจึงได้โทรไปยังปลายสายที่แจ้งเหตุประมาณ 23.12 น แต่ไม่มีใครรับ จึงตัดสินใจวิ่งไปที่เกิดเหตุบริเวณที่รับแจ้งวัดคู่สร้างใช้เวลาประมาณไม่ถึง 5 นาทีแต่ไม่พบเหตุ ตนยังได้รอกู้ชีพเจ้าหน้าที่กู้ชีพแจ้งมาอีก 1 ครั้งว่าบริเวณซอยหมอเสริม2 จากนั้นตนจึงวิ่งจากวัดคู่สร้าง ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีไปถึงที่จุดเกิดเหตุก็พบเหตุดังกล่าว พอตนจอดรถก็มีชายใส่เสื้อสีน้ำเงินเดินเข้ามาเอะอะโวยวายต่อว่าตนว่าจะรอให้คนเจ็บตายก่อนหรือไงทำไมถึงมาช้า ส่วนตนไม่ได้สนใจอะไรจึงรีบไปดูคนเจ็บและช่วยเหลือ ซึ่งชายดังกล่าวก็ยังโวยวายอยู่ต่อเนื่องจนตนต้องลุกขึ้นไปอธิบายให้กับชายดังกล่าว รับทราบว่าระบบการแจ้งเหตุ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ฟังยิ่งเอะอะโวยวายและควักมีดออกมาเพื่อจะมาทำร้ายตนและกลุ่มอาสา จนตนต้องบอกให้อาสากู้ภัยลุกออกมาก่อนเพื่อความปลอดภัย



จากนั้นก็มีชายเสื้อดำรูปร่างท้วมๆเข้าไปยึดมีดและคุมตัวไว้ จากนั้นอาสาสมัครกู้ภัยจึงได้ทำการช่วยเหลือคนเจ็บได้ต่อเนื่องจนส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย ส่วนตนและอาสาจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร้อยตำรวจเอก อิสระ แสงสว่าง รอง สว(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ ไว้เรียบร้อยแล้ว



ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้นำตัวนาย จักรกฤษ คชดี อายุ 28 ปีเลขที่ 60 หมู่ 2 ตำบล ท่าหลวงอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุ ทะเลาะวิวาทกับทางอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูของช่วงกลางดึกที่ผ่านมา



ได้ความว่า นายจักรกฤษ เห็นกลุ่มรถจอดเป็นจำนวนมากและเปิดแสงไฟวับวาบ ตนเองเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงเตรียมอาวุธมีที่พกมาด้วยเอาออกมา แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบคนมุงมากมาย ตนเองจริงไปยืนดูและมองเห็นว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงพูดเสียงดังออกไปว่าทำไมไม่เอาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งว่าต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียก่อน จึงนำคนเจ็บส่งได้



จึงเป็นเหตุให้นาย จักรกฤษ ไม่พอใจและบอกว่า มาก็ช้าแถม ไม่ยอมนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยด่วน จึงเป็นเหตุให้เกิดการโมโหแทนผู้ได้รับบาดเจ็บ จะต้องรอให้ตายก่อนหรือยังไง เนื่องจากตนเองดื่มสุรามาหนักจึงพลั้งพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกไปและด่าทอเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก



จากนั้นจึงนำมีดที่พกมาด้วยทุบลงไปที่กระโปรงหน้ารถของกู้ภัยได้รับความเสียหาย และจากนั้นก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยนำตัวนาย จักรกฤษ ออกจากที่เกิดเหตุไปจึงทำให้ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงและรักษาตัวต่อไป



จากการสอบถามนายจักรกฤษณ์ คนเจ็บเป็นเพื่อนร่วมงานในโรงงาน ตนเองผ่านมาเห็นพอดี ซึ่งตอนแรกตนเองคิดว่ามีเรื่อง ตนเองจึงจอดรถและชักมีดออกมา และลงรถมาดู และพูดว่าถ้าเป็นขนาดนี้ตายเลยนะ ต้องเอาส่งโรงพยาบาลก่อน ตนเองจึงพูดออกไปว่าตำรวจเขาเอาแค่พรบ. กลับตรงจุดเกิดเหตุ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ส่วนฝั่งทางกู้ภัยก็มาเยอะ ผมก็ยอมแล้วนะผมก็ยกมือไหว้ พี่พาไปก่อนเถอะไม่งั้นตาย ผมพูดแบบนี้จริง ๆ แล้วจากนั้นก็ มีคนพูดขึ้นมาว่า "มึงเก๋าเหรอ" โดยที่เขามองหน้าและต่อว่าผมอย่างเดียว ผมเลยไปขอโทษที่ผมอารมณ์ร้อน ถามใครก็ได้ ผมขอโทษครับผมอารมณ์ร้อนจริง ผมกินเหล้ามา ผมขอโทษ



อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายจักรกฤษ ข้อหาพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ