อาชญากรรม

แก๊งย่องขโมยสายไฟ กลบรอยเท้า-ไม่ติดทะเบียน สุดท้ายเกม ติดชื่อตัวเองข้างรถ

โดย attayuth_b

16 ธ.ค. 2566

2.5K views

วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง โดย พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุมตัวนายอนุพงษ์ หรือเต้ย โพธิจร อายุ 24 ปี นายจักรพล หรือโจ้ จำรัสรัก อายุ 22 ปี นายจิระวัฒน์ หรือรัก สถิตธนะพันธุ์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4632-4633-4634/2566 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ความผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด “ พร้อมของกลางรถกระบะ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขส 1018 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ภายในไซด์งานก่อสร้างคอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน แขวงดอนเมือง กรุงเทพ เมื่อเวลา 12.00 น. ( 16 ธ.ค.) ที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีเหตุลักทรัพย์สายไฟที่ไซด์คนงานก่อสร้างคอนโอแห่งหนึ่ง ( นิวคอนเน็คดอนเมือง ) ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง จำนวนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมืองได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดพื้นที่ใกล้เคียงมาโดยตลอด กระทั่งทราบว่ากลุ่มคนร้ายรายนี้มีด้วยกัน 4 คน และใช้รถกระบะสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ ซึ่งด้านข้างรถติดสติ๊กเกอร์ข้อความ Anupong Phothijhon และจากแนวทางการสืบสวนทราบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของคนงานในไซด์งานก่อสร้างของผู้เสียหายเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ

กระทั่งวันนี้ได้รับแจ้งว่านายจิระวัฒน์ หรือ รัก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับนี้กำลังทำงานอยู่บนชั้น 8 ไซด์งานก่อสร้างสถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบจนพบตัวก่อนจะสามารถติดตามจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนยอมรับว่าร่วมกับผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งทั้งหมดทำงานเป็นช่างไฟของโครงการดังกล่าว แต่เงินไม่พอใช้จึงร่วมกันวางแผนในการลักตัดสายไฟในไซด์งาน โดยขับรถจอดฝั่งตรวจข้างในจุดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นข้ามถนนแอบเดินเข้าไซด์งานโดยไม่ให้ รปภ.เห็น เมื่อก่อเหตุได้สายไฟมาก็จะช่วยกันขนขึ้นหลังรถกระบะที่จอดไว้จากนั้นจะเดินกลับมาใช้เท้าเกลี่ยทรายเพื่อลบรอยเท้าที่พื้นไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตุ จากนั้นจะช่วยกันนำไปเก็บที่ห้องพักแล้วแบ่งไปขายร้านรับซื้อของเก่า โดยนำไปขายมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเข้าไปก่อเหตุมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม และนำไปขายได้เงินมาประมาณ 8 หมื่นหกพันบาท รวมทั้ง 3 ครั้งได้เงินร่วม 5 แสน เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปใช้ส่วนตัว และเที่ยวแตร่

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง และติดตามผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News