ปราบแก๊งนักล่าสมบัติ! ขายโบราณวัตถุผ่านเฟซบุ๊ก ตร.ตรวจยึดได้กว่า 1,000 ชิ้น

ตร.สอบสวนกลาง ร่วมกรมศิลปากร ปราบแก๊งนักล่าสมบัติโบราณ ลอบขุดนำโบราณวัตถุและนำไปประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจยึดโบราณวัตถุได้กว่า 1,000 ชิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณวัตถุ ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบขุด ค้า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยมีการนำโบราณวัตถุต่างๆ มาเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร

จากการตรวจสอบพบบัญชีเฟชบุ๊กของกลุ่มผู้ต้องหา ลงโพสต์ภาพการขุดค้นหาโบราณวัตถุ พร้อมประกาศขายสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุจำนวนหลายรายการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อซื้อสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุดังกล่าว โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับสิ่งของคล้ายวัตถุโบราณมาแล้ว ได้ส่งตรวจพิสูจน์ที่สำนักศิลปากร กรมศิลปากร ผลการตรวจสอบพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535) จริง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ห้ามมิให้ขุด ค้นหา หรือซื้อขายโบราณวัตถุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน โดยผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นพี่น้องกัน โพสต์ภาพผ่านเฟชบุ๊กขณะไปร่วมกันขุดหาโบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ หลังจากนั้นจะนำโบราณวัตถุต่างๆ มาประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยในภาพที่ผู้ต้องหาโพสต์ยังปรากฏบุคคลอื่นๆ ที่ร่วมกันขุดหาสิ่งของโบราณวัตถุกับผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดจำนวน 3 หมายจับ พร้อมขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าน่าจะมีการซุกซ่อนโบราณวัตถุหรือสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้กระทำความผิด พบมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท และมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

กก.4 บก.ป. จึงได้วางแผนพร้อมประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร บูรณาการร่วมกันตรวจค้นสถานที่ป้าหมายซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้ต้องหาตามหมายสถานที่เชื่อว่าซุกซ่อนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, พะเยา, สุโขทัย และลำปาง รวม 9 จุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 3 ราย คือ 1.นายทศพร อายุ 26 ปี 2.นายทศพล อายุ 19 ปี 3.นายศรีออน อายุ 46 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน เป็นผู้เก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อน หรือ ฝัง หรือ ทอดทิ้ง ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้และเบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้นเป็นของตัวเองหรือของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และจำหน่าย เอาไปเสีย ซึ่งโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ โดยผิดกฎหมาย พร้อมตรวจยึด 1.เครื่องสแกนโลหะ 11 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์การขุด 2.สิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จำนวน 970 ชิ้น 3.สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ให้การปฏิเสธ

ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนภัยประชาชน กรณีพบเจอสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ ขอให้ท่านนำส่งกรมศิลปากร เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ไม่ควรยึดถือไว้เป็นของตัวเอง เนื่องจากตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มาตรา 24 โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อน หรือฝัง หรือทอดทิ้งไว้ในราชอาณาจักร ให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน และสำหรับผู้ใดที่ลักลอบขุด ค้นหา โบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำไปประกาศขาย รวมไปถึงผู้รับซื้อโบราณวัตถุต่างๆ จะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด มีโทษตามกฎหมาย