เก๋งหัวร้อน ถูกหกล้อบีบแตร กะพริบไฟไล่ ก่อนโบกให้จอด ชักปืนยิง

หนุ่มโชเฟอร์รถบรรทุกหกล้อ นำภาพหนุ่มหัวร้อนชักปืนยิงเข้ามาในรถ ร้องเพจดังเมืองแปดริ้ว หลังแจ้งความผ่านไปสามวันยังตามคนที่ยิงไม่ได้แม้จะเห็นทะเบียนรถอย่างชัดเจน สาเหตุเพราะรถเก๋งขับช้าเลยเปิดไฟหน้าและบีบแตรใส่ไปหนึ่งครั้ง ทำให้รถเก๋งหัวร้อนคันนี้โบกให้จอดก่อนจะชักปืนยิง ยิ่งช้ำใจตำรวจที่รับแจ้งความพูดว่าตนเป็นต้นเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในการยิงครั้งนี้

จากกรณีที่เพจ “ท็อป เรารักแปดริ้ว” ได้โพสต์ภาพหนุ่มหัวร้อนชักปืนยิงออกมาจากรถเก๋ง พร้อมระบุข้อความว่า #แค่ยกไฟสูงเตือนหนุ่มหกล้อโดนเก๋งชักปืนยิงเฉียดหัวไปนิดเดียว ท๊อปได้รับการร้องเรียนจากผู้ขับขี่รถบรรทุก 6 ล้อว่าเมื่อเย็นวันที่ 26 เวลาประมาณ 18:00น. ที่ถนน 304 ขาเข้าเมือง ได้ขับรถบรรทุกมาบนถนนตามปกติหลังจากนั้นมีรถเก๋งฮอนด้าคันในภาพขับช้าขวางทางอยู่ตนเห็นว่าคันหน้าขับช้าจึงได้ยกไฟสูงไป 1 ครั้ง แต่รถเก๋งมีอาการไม่พอใจ เปิดกระจกด่าทอตน หลังจากนั้นได้ขับขวางทางพยายามจะให้ชนท้ายแต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นทั้ง2คันได้จอดจะลงมาคุยกันแต่ฝ่ายรถเก๋งได้คว้าปืนขึ้นลำแล้วยิงใส่คนขับรถ6ล้อ เฉียดหัวไปนิดเดียวกะสุนทะลุเข้าหลังคารถ ท่านใดรู้จักรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอท สีทอง หมายเลขทะเบียน ขง 8645 ระยอง ติดต่อกลับท๊อปมาได้เลยครับ”

ช่วงเย็นวันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ตามไปเจอคนขับรถบรรทุกหกล้อ ที่บรรทุกภาพไว้ คือนายประเสริฐ เภาแพง อายุ 37 ปี โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนเองบรรทุกคอมเพสเซอร์แอร์มาเต็มคันจากอำเภอกบินทร์บุรี จะนำไปส่งที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยขับรถวิ่งมาตามถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม เมื่อขับรถมาถึงช่วงปั๊มน้ำมัน PT ม.4 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอท สีทอง หมายเลขทะเบียน ขง 8645 ระยอง โดยคนขับอายุประมาณ 30 ปีไม่สวมเสื้อ ขับรถแช่อยู่เลนขวา ตนเองจึงได้สต๊อปไฟหน้ารถไป 1 ครั้งเพื่อให้รถยนต์เก๋งแอบเข้าซ้าย แต่รถยนต์เก๋งไม่ยอมหลบ ตนเองจึงหักเข้าซ้ายแทน เพราะไม่อยากทะเลาะ แต่ทันใดนั้นรถยนต์เก๋งก็หักซ้ายปาดหน้า เหมือนพยายามหาเรื่องให้รถของตนชนท้าย จากนั้นจึงขับกันมาเรื่อยๆ จนคนขับรถยนต์เก๋งได้ไขกระจกลง ด่าท่อตน ตนเองก็เลยบีบแตรและด่ากลับไป จนรถขับเข้ามาถึงในพื้นที่ ม.5 ต.เสม็ดใต้ ก่อนถึงวัดสนามช้าง ชายที่อยู่ในรถยนต์เก๋งได้ชักอาวุธปืนออกมา ทำท่าโบกรถให้ตนจอดเข้าข้างทาง ซึ่งตนเองเห็นว่าคู่กรณีมีปืนและไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลาย จึงจะจอดลงไปสอบถามและขอโทษและรู้สึกว่าอาจจะไม่ชอบมาพากล เมื่อจอดรถเข้าข้างทางแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดเหตุการณ์ไม่มีขึ้น ทันใดนั้นเมื่อตนเองเปิดประตูรถจะลงไปด้านล่าง คนขับรถเก๋งได้ยิงปืนสวนเข้ามาที่รถตนหนึ่งนัด ตนเองจึงรีบปิดประตู สำรวจตัวเองว่าไม่ได้โดนยิงจึงรีบขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถเก๋งหลังยิงเสร็จแล้ว ก็ได้ขับออกไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะชะลอดูผลงานว่ายิงเข้าที่รถตนหรือไม่อย่างไร ก่อนจะเร่งเครื่องขับหนีไป ตนเองก็รู้สึกตกใจในขณะนั้น ก่อนจะไปหาที่ปลอดภัยจอดรถลงมาดู ก็พบว่ากระสุนยิงเข้ามาที่หลังคารถของยนต์ หากกระสุนต่ำกว่านี้ประมาณคืบ ก็จะเข้าศรีษะตนพอดี ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ว่าทำไมถึงต้องทำรุนแรงกันถึงขนาดนี้ จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ ที่ สภ.บางคล้า พื้นที่เกิดเหตุ

นายประเสริฐ เปิดเผยต่อว่า หลังแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดกับตนว่า ตนเองเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือตนกระพริบไฟและบีบแตรใส่รถเก๋ง ตำรวจเลยแจ้งกับตนว่า นี่แหละคือจุดสำคัญ เพราะเหมือนว่าตนเองขับรถไล่รถเก๋ง ไม่มีมารยาท ตนเองก็รู้สึกงง ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ จึงได้นำภาพมาร้องสื่อมวลชน ให้ช่วยติดตามหาบุคคลในรถคันดังกล่าว เป็นหลักฐานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินดคี ทั้งนี้ตนเองก็อยากฝากผู้ขับขี่ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆพูดจากัน อย่าทำรุนแรงกันถึงขนาดนี้ ซึ่งครั้งนี้ตนเองถือว่าโชคดีที่ไม่ได้โดนกระสุนปืนยิงแต่อย่างใด