รวบชายติดยา ต้องสงสัยเผามัสยิดตรัง ยังให้การปฏิเสธ

สะเทือนใจ คนร้ายลงมือก่อเหตุลอบวางเพลิงมัสยิดหลังเก่า เสียหายบางส่วน พบมีการใช้ยางรถยนต์ และหนังสืออัลกุรอ่านเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นวิธีการก่อเหตุลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดภาคใต้ เบื้องต้นทางตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายมุสลิมติดยาเสพติด วัย 32 ปี ชาว จ.ปัตตานี ซึ่งมาอาศัยอยู่กับภรรยาในพื้นที่ คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นยังคงให้การภาคเสธ



เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ 28 พ.ค.66 ร.ต.อ.บุญเลิศ หวานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.กันตัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง นายตะฝน ยะฝา กำนัน ต.บางหมาก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังจากมีคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารมัสยิดหลังเก่า มัสยิดยามาอะตุ้ลเอี้ยะซาล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า มัสยิดบ้านหนองกก ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านหนองกก ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อช่วงเวลาย่ำรุ่ง 04.00 น. โดยพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นมัสยิดเก่า ซึ่งอยู่ติดกันกับมัสยิดหลังใหม่ โดยในปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมงานบุญต่างๆ และเป็นสถานที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนและศึกษาศาสนา



จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ลอบวางเพลิง โดยใช้ยางรถยนต์ ผ้าห่ม ผ้ารองนั่ง ผ้าต่างๆ ขยะ น้ำมัน และหนังสือหนังสืออัลกุรอ่านเป็นเชื้อเพลิงในการก่อเหตุ ในเบื้องต้นความเสียหายเพลิงได้ลุกใหม่ประตูด้านหน้า ประตูด้านใน หน้าต่าง หลังคา ขื่อ และคาน ได้รับความเสียหายบางส่วน ซึ่งไม่ได้ลุกลามไปทั้งตัวอาคาร ทั้งนี้หนังสือหนังสืออัลกุรอ่าน ข้าวของเครื่องใช้ เช่น ถ้วย ชาม ถูกเพลิงเผาวอดได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันยังคงพบว่าคนร้ายมีการวางผ้าต่างๆ รวมทั้งป้ายผ้าที่เขียนเป็นภาษายาวีไว้บนคานของตัวอาคาร และยางรถยนต์ตั้งไว้บนหลังคา และยางรถยนต์ในคูน้ำหน้ามัสยิดยังที่สำหรับใช้เป็นเป็นเชื้อเพลิงคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งยังคงไม่ได้ถูกเผาแต่อย่างได



นายจรูญ ยะฝา อายุ 73 ปี อิหม่ามประจำมัสยิดฯ และมีตำแหน่งเป็นรักษาการประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเองอยู่ห่างจากมัสยิดไปประมาณ 1 กม. แต่ในพื้นที่มีญาติพี่น้องอยู่ก็ได้เห็นเหตุการณ์ตอนเพลิงลุกไหม้ และในขณะเกิดเหตุมีแม่ค้าได้ขับรถผ่านหน้ามัสยิดในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ก็ได้ไปเรียกน้องของตนมาดูและช่วยกันดับไฟ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปแล้ว ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นหลานเขยของตน ที่ผ่านมาพฤติกรรมผู้ต้องสงสัย ก็อยู่ตามประสาของเขา แต่โดยเฉพาะกลางคืนจะไม่หลับนอน มูลเหตุจูงใจที่ได้ลงมือ ตอนนี้ก็ยังสงสัย ยังตอบไม่ได้ เพราะในส่วนตัวของเขาก็เป็นคนมุสลิม พื้นเพกำเนิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่มาได้ภรรยาในพื้นที่นี้



นายจรูญ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจมากที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงที่ได้ทำ เพราะมัสยิดไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง โดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ก็เป็นของคนในชุมชนและคนทั้งหมด หลังจากนี้ก็ต้องมีการระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะในพื้นที่ จ.ตรัง ไม่เคยมีการก่อเหตุกับมัสยิดเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ในอดีต อีกทั้งมัสยิดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2532 หรือ 34 ปีที่ผ่านมา



นายตะฝน ยะฝา กำนัน ต.บางหมาก กล่าวว่า ในเบื้องต้นหาผู้ต้องสงสัยเป็นคนก่อเหตุจริง ก็สาเหตุมาจากติดยาเสพติด เพราะผู้ต้องสงสัยติดยาเสพติด และตนคิดว่าคนในพื้นที่ไม่มีใครกล้าจะมาทำเช่นนี้ เพราะพี่น้องตนทั้งนั้น และคาดว่าน่าจะไม่เกี่ยวกับภัยของความมั่นคงแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบผู้ต้องสงสัยเป็นชาว จ.ชายแดนภาคใต้ แต่มาได้ภรรยาที่นี้ และพฤติการณ์การวางเพลิงมีประสบการณ์สูง แต่โชคดีที่ความเสียหายไม่เยอะ หลังจากนี้ก็คงต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประเมินและหางบประมาณในการซ่อมแซม



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายความมั่นคงมองว่าวิธีการก่อเหตุลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ แต่ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ โดยหลังจากเกิดเหตุ เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ร่วมกันจับกุมตัว นายบีลลา ดือลาซอ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่ .2 ต.สาคอบน อ.มายอ จ.ปัตตานี ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัย ก่อนจะทำการตรวจปัสสาวะ พบว่ามีฉี่ม่วง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายไว้ก่อน และอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงไม่รับสารภาพในการก่อเหตุลอบวางเพลิง เพียงแต่รับว่ายางรถยนต์และผ้าบางส่วนเป็นของผู้ต้องสงสัย ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ทาง อ.กันตัง และ สภ.กันตัง มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เฝ้าระวังสถานที่อย่างใกล้ชิด