อาชญากรรม

ไรเดอร์ร้องสายไหมต้องรอด ถูกชายชาวญี่ปุ่นชนแล้วหนี ก่อนตามมาต่อยซ้ำ

โดย panisa_p

4 มี.ค. 2566

283 views

นายธีรทัต ไรเดอร์หนุ่มซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย ถูกชายชาวญี่ปุ่นขับรถชนแล้วหนีแล้วยังทำร้ายร่างกายซ้ำ เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากหลังเกิดเหตุยังไม่สามารถติดตามตัวชายชาวญี่ปุ่นที่ก่อเหตุได้ จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


นายธีรทัต กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์จะไปรับออเดอร์ย่านเทียมร่วมมิตร จังหวะที่มาจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกเหม่งจ๋าย ก็มีรถเก๋งฮอนด้าของคู่กรณีมาต่อท้าย แล้วพอไฟเขียวก็ขับเบียดตนทางซ้าย แต่ไม่จอดมาดู ตนจึงพยายามขับตามไปถึงไฟแดงถัดไป ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 300 เมตร


พบว่าคู่กรณีเป็นชายอายุ ประมาณ 40 ปี เปิดกระจกรถอยู่ ตนเลยบอกไปว่า พี่ขับรถชนท้ายผม แต่คู่กรณีไม่ตอบอะไร กลับยกนิ้วชูของลับให้ พร้อมกับหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มต่อหน้าตน ตนเลยไปจอดรถขวางหน้ารถคู่กรณี เพื่อไม่ให้หลบหนี จะได้คุยกันก่อน คู่กรณีก็บีบแตร แล้วขับเบี่ยงขวาหนีไป ตรงไปทางถนนเทียมร่วมมิตร ตนก็พยายามขับตาม ซึ่งคู่กรณีก็มีการขับเบียดจนโทรศัพท์ตนหล่นพื้นพังเสียหาย และรถจักรยานยนต์เสียหายด้วย แต่ตนก็ยังพยายามไล่ตาม


จนไปถึงลานจอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่ง คู่กรณีก็ไม่ยอมลงจากรถ ตนเลยโทรศัพท์แจ้ง 191 แต่ผ่านไป 15 นาที ตำรวจก็ไม่มา คู่กรณีเลยขับหนีไปได้ แต่พอหนีไปได้สักพัก คู่กรณีก็วนกลับมาจอดรถที่ลานจอดดังกล่าว ตนเลยเดินเข้าไปหา แล้วบอกว่า เมื่อกี้พี่ขับรถชน ผมได้รับความเสียหาย ให้เรียกประกันได้เลย คู่กรณีก็ลงจากรถมา ไม่พูดอะไร แต่ชกเข้าที่ใบหน้าตนทันที แล้วพูดเป็นสำเนียงคนญี่ปุ่นว่า ชนตรงไหน ไม่ได้ชน แล้วก็รถเก๋งอีกคันขับมาเป็นคนญี่ปุ่น มากันประมาณ 3-4 คน เรียกคู่กรณีให้หนี แล้วทั้งหมดก็ขับรถหนีไป


หลังจากนั้น ตนจึงโทรศัพท์หา 191 อีกครั้งว่าคู่กรณีหลบหนีไปแล้ว แต่ตำรวจบอกว่าให้ตนไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวางเอง แล้วพอไปถามที่ สน.ห้วยขวาง ตำรวจก็บอกว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดของตำรวจ 191 ส่วนการติดตามตัวคู่กรณีต้องส่งเรื่องไปที่ ตม. และสถานทูตก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ตนจึงกลัวว่าคู่กรณีจะมีเวลาในการทำลายหลักฐาน


และตนก็รู้สึกติดใจในการทำงานของตำรวจ เพราะหากเจ้าหน้าที่มาทันก็คงควบคุมตัวคู่กรณีไว้ได้แล้ว และตนก็ต้องการให้คู่กรณีมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย โดยตนได้รับบาดเจ็บกระดูกที่จมูกร้าว ตาช้ำ และมีบาดแผลที่นิ้วมือ และยังต้องซ่อมโทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์เองด้วย


ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการประสานไปที่ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ให้เร่งรัดการติดตามตัวคู่กรณี ซึ่งมองว่ากฎหมายไทยต้องให้ความคุ้มครองคนไทยด้วย หากเป็นคนไทยไปก่อเหตุเช่นนี้ในต่างประเทศ ก็คงถูกตำรวจประเทศนั้นๆ ดำเนินคดีได้ทันที ไม่จำเป็นต้องแจ้ง ตม. หรือสถานทูตก่อน


นอกจากนี้ ยังต้องให้ตรวจสอบการทำงานของตำรวจ 191 ว่าทำไมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุ ทั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประชาสัมพันธ์ว่า เจ้าหน้าที่จะมาถึงภายใน 5 นาที ซึ่งถ้าตำรวจมา ก็จะสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งพอเรื่องผ่านมาถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะตรวจสอบและเอาผิดในเรื่องนี้ได้แล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News