'ทนายรณณรงค์' พาญาติเหยื่อเมาน์เทนบี ร้อง ปปป. เอาผิดจนท.รัฐ ปล่อยให้เปิดผับจนเกิดเพลิงไหม้

'ทนายรณณรงค์' พาญาติเหยื่อเมาน์เทนบี ร้อง ปปป. เอาผิดจนท.รัฐ ปล่อยปละละเลย ให้เปิดผับจนเกิดเพลิงไหม้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ต.ค. 65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กทม. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม 31 ครอบครัวผู้เสียหายจากเหตุไฟไหม้เมาน์เทน บี จะเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ


เพื่อขอให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) รับดำเนินคดีนี้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง เพราะยังไม่มีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนความผิดที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยมิชอบ แต่อย่างใดเลย


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร นำตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จำนวน 31 ครอบครัว จากเหตุเพลิงไหม้ เมาเทน บี ผับ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้สอบสวนเอาผิด 4 เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น


ประกอบด้วย เทศกาลเมืองสัตหีบ อำเภอสัตหีต จังหวัดชลบุรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยปละละเลยให้ผับเมาเทน บี เปิดบริการจนเกิดเพลิงไหม้เป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตไปถึง 25 คน แล้ว โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าทุกข์ได้แจ้งความไว้กับ สภ.พลูตาหลวง แต่ไม่มีความคืบหน้า


รวมทั้งเคยร้องขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรับโอนคดีมา แต่เรื่องก็เงียบ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกลำบากใจที่จะให้ตำรวจพื้นที่ดำเนินคดีนี้ต่อ เพราะเหมือนไม่มีผู้ใดกล้าเอาผิดหน่วยงานรัฐ จึงพาผู้เสียหายมายื่นหนังสือต่อ บก.ปปป.อีกครั้งในวันนี้ เพื่อให้เกิดชัดเจนว่า หน่วยงานรัฐได้กระทำความผิด


ตัวเองจะได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ฐานความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ต่อไป ไม่ใช้เพียงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง กับตัวเจ้าของผับต่อนั้น สำหรับค่าสินไหมทดแทนที่ประเมินว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสมควรจะได้รับในขณะที่อยู่ที่จำนวน 253 ล้านบาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นในอนาคตของผู้บาดเจ็บ


ด้านนางสาวนลินี บุญประเสริฐ อายุ 37 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บ มีแผลไฟไหม้ทั้งแผ่นหลังและแขน เล่าว่า ตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าของร้านไม่ไถ่ถาม เจรจา พูดคุยเรื่องค่าสินไหมทดแทน ทั้งที่บ้านอยู่ซอยเดียวกัน แค่เพียงส่งค่ารักษาพยาบาลให้ 1 แสนบาท ซึ่งไม่เพียงพอในการรักษา


รวมทั้งแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าตัวเองต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี จากนั้นยังต้องสั่งตัดเสื้อผ้าสำหรับผู้มีแผลไฟไหม้ตัวละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น บาทไปอีก 1 ปี ขณะที่ผู้ชีวิตนั้นทางเจ้าของผับให้เงินเยียวยาแค่ศพละ 150000 บาทเท่านั้น