'รณณรงค์-เดชา' ขอไม่ยุ่ง! ฝากถึง 'ทนายตั้ม' ขอให้มีสติ ย้ำทนายดรีมทีมยังอยู่ แต่ตอนนี้ห่างกันสักพัก

'ทนายรณณรงค์ - ทนายเดชา' ทนายกลุ่มทนายดรีมทีม ฝากถึง 'ทนายตั้ม' ขอให้มีสติจัดการปัญหา ความเป็นเพื่อนเรายังเหมือนเดิม แต่ตอนนี้อาจขอห่างกันสักพัก ยืนยัน ตอนนี้ถูกกระแสโจมตีทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง

วานนี้ (31 ต.ค.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ และ นายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้สัมภาษณ์สื่อ ภายหลังได้ร่วมรายการโหนกระแส เพื่อชี้แจง กรณีถูกมองว่ามีส่วนได้รับผลประโยชน์ กรณี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ถูก “เจ๊อ้อย” เศรษฐีแฉอมเงิน 71 ล้าน

ซึ่งในประเด็นนี้ นายเดชา กล่าวว่า ตนได้โทรพูดคุยกับทนายตั้ม ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เขาไม่ได้กระทำอะไรผิด เป็นการให้เงินโดยเสน่หา ซึ่งในตอนนี้ได้เตรียมทนายความเพื่อสู้คดี ส่วนเรื่องฉ้อโกงก็เช่นกันไม่เป็นความจริง เขาไม่ได้ฉ้อโกงใคร ซึ่งถ้ามีหมายเรียกหรือทางพนักงานสอบสวนเชิญก็พร้อมจะไปให้ข้อมูล ส่วนของตนและทนายรณรงค์ จะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ เพราะหากเราเข้าไปช่วยเหลือจะถูกมองว่ามีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ จึงขอไม่ยุ่งจะเดีกว่า แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ตอนนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ออกมาพูดว่า ตนเป็นฝ่ายถูก มีหลักฐานครบถ้วน ดังนั้น เรื่องนี้ควรให้ศาลตัดสินเพื่อความเป็นธรรม

ซึ่งตามปกติแล้ว นายเดชากล่าวว่า กรณีเช่นนี้ หากมีการพูดคุย และคืนเงิน ถอนคำร้องทุกข์ สิทธิ์ในการดำเนินดคีอาญาก็ระงับ เรื่องก็จะจบ

เมื่อถามความเห็นกรณีนายกสภาทนายความ จะทำการสอบมรรยาททนายความ กรณี ทนายตั้ม เรื่องนี้ นายเดชา ได้ให้ความเห็นไว้ว่า นายกสภาทนายความไม่ได้มีหน้าที่ตัดสิน ทั้งนี้ นายกมาจากการที่ทนายความเลือกตั้งมา ผู้ที่จะตรวจสอบว่าทนายความคนใดทำผิดมรรยาททนายความ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมรรยาท ซึ่งยังมีขั้นตอนในการตั้งทนายความผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอีกมาตรวจสอบ ซึ่งยังต้องรอหลายขั้นตอนกว่าจะมีการตัดสิน ซึ่งทนายความคู่กรณีไม่ควรมาโพสต์หรือให้ข้อมูลเพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ยังไม่มีการตัดสินใดๆ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนมีข้อมูลและทราบว่ากรณีกรณีทนายความที่เรียกรับเงินมีหลายรายถ้าหากจะต้องตรวจสอบสภาทนายความควรดำเนินการทุกราย

ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หนึ่งในกลุ่มทนายดรีมทีม เพื่อนทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้ มีคนเข้ามาด่า ต่อว่าเยอะว่าตนไปเกี่ยวข้อง / ไปตบทรัพย์ เรื่องนี้ ตนไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องเลย ซึ่งมีข่าวออกมา แต่ยังไม่เห็นมีใครนำหลักฐานมาแสดงว่าตนทำผิด ขออย่าไปโยงเรื่องกันเอง ตอนนี้ตนถูกด่า ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

ทั้งนี้ ในการทำงานตนไม่ได้ทำงานคนเดียวมีกลุ่มจิตอาสาอีกหลายคนที่อยู่เบื้องหลัง การพูดจาใส่ความเช่นนี้ทำให้ตนและคนทำงานอื่นๆ เกิดความลำบากใจ ตอนนี้เครียดแต่ไม่ได้โกรธ ซึ่งเรื่องของทนายตั้มนั้นตนก็ไม่ได้ให้คำปรึกษาใดใด แต่ขอให้คำแนะนำว่าให้ทนายตั้มมีสติจัดการทุกเรื่องด้วยตนเอง ตอนนี้อาจจะห่างกัน แต่ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม ไม่ขอความเห็นใด ๆ ไม่ชอบกระทืบใครซ้ำ

ส่วนในกรณีที่มีภาพถ่ายปรากฏว่าตนและทนายเดชาไปร่วมในเฟรม ถ่ายภาพกับผู้เสียหายพร้อมกับทนายตั้มเรื่องนี้ เป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรในวันนั้นเป็นการพูดคุยกันเพื่อเชิญออกไปร่วมอยู่ข้างผู้เสียหายแต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยข้อตกลงใดใด ซึ่งถ้าหากใครที่พูดถึงหรือกล่าวถึงว่าตนทำการตบทรัพย์จากผู้เสียหายขอให้นำหลักฐานมาแสดงหรือเข้าแจ้งความได้เลยไม่ใช่พูดจาลอย ๆ

เมื่อถามความเห็นกรณีกรณีที่ทนายตั้มถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพรากผู้เยาว์ เรื่องนี้นายรณรงค์บอกว่าให้ไปถามทนายตั้ม ไม่ใช่เรื่องของตน ไม่ขอให้ความเห็นใดๆ ไม่ใช่ โฆษกประจำตัวทนายตั้ม

ส่วนกรณี ที่ทนายความของบอสพอล ออกมาระบุ จะดำเนินคดีกับกลุ่มแม่ข่ายที่มีการแจ้งรายชื่อมา เรื่องนี้ทนายเดชากล่าวในฐานะที่ตนมีส่วนช่วยเรื่องกฎหมายกับผู้เสียหายอยู่ ตนมองว่า สิ่งที่พูดเป็นการบิดเบือนสามารถเข้าไปสอบถามกับพนักงานสอบสวนได้ ส่วนที่บอกว่ามีคลิปเสียงพูดคุยกันอันนั้นก็เป็นพยานหลักฐานเท็จ ไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตน อยู่ ๆ ก็เอาเอกสารตนไปใช้ได้อย่างไร จึงอยากให้ทนายของบอสพอลเอาคลิปเสียงมาพูดคุยกันต่อหน้าเลยว่า ใช่เสียงของทนายเดชาไปพูดคุยและให้ผู้เสียหายพูดจาให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ตนเชื่อว่าบุคคลในคลิป และ ผู้เสียหายที่ถูกอ้างถึงไม่มีตัวตนจริงเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5VxD6_xMD44