หนุ่ม 17 โดนวัยรุ่นนับ 10 รุมกระทืบสลบ อ้างถูกด่าในเฟซบุ๊ก คดีไม่คืบ

ทางทีมข่าวได้ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยผู้บาดเจ็บคือน้องเอ นามสมมุติเล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ต่อเนื่องวันที่ 15 ก.ย.65 ตนเองได้นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ที่บ้านบริเวณซอยสามัคคี จากนั้นได้มีนายฟานทักแชทข้อความมาบอกว่าตนเองได้ทักแชทไปด่าซึ่งตนเองก็อธิบายไปว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำเพราะหลังจากเช็คโทรศัพท์มือถือแล้วปรากฏว่า Facebook ของตนเองได้มีการเข้าใช้งานจากโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นที่ไม่ใช่ของตนเองและมีผู้ไม่หวังดีใช้ Facebook ของตนเองทักแชทไปต่อว่าคนอื่นหลายคนแต่ไอฟานส์ไม่ฟังจึงมีการพูดท้าทายกันโดยนายฟาน บอกว่าจะมารับตนเองที่บ้านซึ่งตนเองก็บริสุทธิ์ใจจึงให้นายปานมารับโดยตนเองคิดว่าจะไปพูดคุยไปอธิบายให้ทางฝั่งของนายฟานเข้าใจ

โดยนายฟ้าได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับตนเองและตนเองก็ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ไปที่ชุมชนปากเกร็ดร่วมใจเจ็ด จากนั้นนายฟานได้พาเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเมื่อตนเองเข้าไปถึงก็มีวัยรุ่นอยู่ในห้องหลาย 10 คนหลังจากนั้นก็ได้มีการรุมกระทืบตนเองภายในบ้านจนตนเองสลบไปจากนั้นได้มีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นขอท้าทายตัวเองชกต่อยตัวต่อตัวซึ่งตนเองก็ยอมรับคำท้าและก็ออกไปที่ลานหน้าชุมชนจากนั้นก็มีการชกต่อยกันขึ้น สุดท้ายตนเองก็ถูกรุมกระทืบและมีวัยรุ่นหนึ่งคนใช้อาวุธปืนยิงตนเองด้วยซึ่งหลังจากนั้นเมื่อตนเองฟื้นขึ้นมากลุ่มวัยรุ่นจึงพาตนเองขี่รถพยานยนตร์นำตัวมาปล่อยแถวบริเวณบ้านและโทรหาให้คนรู้จักออกมารับ

ทางด้านนายบัณฑิต เฉื่อยฉ่ำ อายุ 37 ปี พ่อของนายเอ บอกว่าตนเองหลังจากทราบเรื่องก็พาลูกชายเข้ารักษาตัวโดยตัวของลูกชายนั้นมีอาการไอเจ็บที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำปวดบวมเป็นจำนวนมากนิ้วก้อยมือขวาก็กระดูกแตกร้าวตอนนี้แจ้งความไปที่สภ.ปากเกร็ดคดีความก็ยังไม่คืบหน้าโดยตนเองก็ต้องเป็นคนที่ไปหาหลักฐานต่างๆหาชื่อผู้ก่อเหตุเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองกลัวว่าคดีไม่คืบหน้าเพราะยังไม่มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุตนเองจึงเข้าร้องต่อเพจสายไหมให้ทำการช่วยเหลือ

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอดได้บอกต่อไปว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้นไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยจนคุณพ่อของน้องที่บาดเจ็บเข้ามาร้องต่อเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งตัวคุณพ่อนั้นต้องไปรวบรวมหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งจากการที่ตนเองสอบถามผู้เสียหายเรื่องราวเกิดขึ้นเพราะมีคนแฮ็ก Facebook ของน้องเอแล้วใช้ Facebook ไปด่าคนอื่นและมีการติดต่อกลับเข้ามาซึ่งตัวน้องเอนั้นจะได้ปฏิเสธไปแล้วแต่ผู้ก่อเหตุที่ถูกด่าได้มาหาน้องที่บ้านได้มีการคุยกันแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุก็ได้พาตัวน้องไปที่บ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากนั้นก็เกิดการรุมเตะและซ้อมน้องเอภายในห้องจากนั้นได้นำตัวออกมาชกต่อยด้านนอกและมีการรุมกระทืบอีกหนึ่งรอบและมีคนใช้อาวุธปืนจะเข้ามายิงน้องเอ

ตนเองมองว่าเหตุการณ์นี้มีการใช้อาวุธปืนทางเจ้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ดนั้นปล่อยปะละเลยได้อย่างไรหรือต้องรอให้เจ้าของปืนนำปืนกระบอกนี้ไปก่อเหตุจนมีคนตายก่อนหรือไม่และเหตุการณ์ดังกล่าวมีคนใช้วุธปืนและมีการรุมทำร้ายในพื้นที่สาธารณะตนเองก็อยากจะฝากไปที่ผู้กำกับสภ.ปากเกร็ดให้ช่วยเร่งรัดคดีความนี้ด้วย