อาชญากรรม

มอบตัวแล้ว ทหารตีท้ายครัว ยิงขู่ฆ่าชายอิสราเอล ตร.ปัดเดินเรื่องช้า อยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน

โดย nicharee_m

7 ต.ค. 2565

473 views

มอบตัวแล้ว ทหารตีท้ายครัว ยิงขู่ฆ่าชายอิสราเอล ตร.แจงคดีละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐาน

รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร ให้สัมภาษณ์กรณีชาวอิสราเอลร้องทนายตั้ม ถูกนายทหารแอบตีท้ายครัวยิงขู่ฆ่า แถมถูกล่ามแสบหลอกยอมความ ล่าสุดเรียกตัวเข้าแจ้งข้อหาและแจ้งต้นสังกัดเพื่อดำเนินการแล้ว ปัดดำเนินคดีช้าเพราะหวังช่วยเหลือกัน ชี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนที่อ้างถูกล่ามหลอกไม่พบข้อมูล ยันผู้เสียหายเข้าพบตำรวจเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยก่อนเดินทางไปพัทยา

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.65) หนุ่มใหญ่ชาวอิสราเอล วัย 53 ปี ร้องทุกข์กับทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ว่า ถูกทหารยศร้อยโท สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งแอบตีท้ายครัวแถมบุกร้านยิงปืนขู่ทำร้าย จนต้องเข้าแจ้งความที่ สภ.สว่างแดนดิน แต่กลับยังเจอล่ามแสบหลอกให้ยอมความ เพราะไม่รู้ภาษาไทย จนไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับนายทหารผู้ก่อเหตุ รายละเอียดตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เวลา 10.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม 65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร (ภ.จว.สน.) พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า รายละเอียดข้อเท็จจริงนั้นสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. สถานีตำรวจภูธรสว่างแดนดิน ภ.จว.สกลนคร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันที่ร้านสุนาคาเฟ่ ต.พันนา อ.สว่างแดนดิน พนักงานสอบสวนพร้อมสายตรวจจึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 9 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นวัตถุพยานของกลาง และต่อมาได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

จนต่อมาทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุในวันดังกล่าวนั้น เป็นนายทหารท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงได้เรียกตัวนายทหารคนดังกล่าวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฏิเสธ โดยชี้แจงว่า เป็นการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อป้องกันตัว หลังจากที่ถูกฝ่ายตรงข้ามคุกคาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนและอำนาจหน้าที่ ไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่ายตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดย พล.ต.ต.สันธาน อินทรจักร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้สั่งกำชับให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พ.ต.อ.โชคชัย ตอบข้อสอบถามของผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่มีข้อมูลของทนายตั้มว่า นายรูดี้ถูกล่ามหลอกให้เซ็นเอกสารยินยอมความนั้น พ.ต.อ.โชคชัย ตอบว่า จากการตรวจสอบข้อมูลไม่พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยนายรูดี้เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง แต่ไม่ได้มีล่ามแต่อย่างใด อีกทั้งมีข้อมูลว่านายรูดี้นั้นอยู่เมืองไทยมานานแล้ว สามารถพูดและฟังสื่อสารภาษาไทยได้ในระดับหนึ่งโดยที่ไม่ต้องใช้ล่าม และในวันนั้นก็ไม่ได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อประนีประนอมยอมความ แต่นายรูดี้เข้าไปเพื่อขอให้ตำรวจดูแบเรื่องความปลอดภัยในระหว่างเดินทางกลับไปพัทยา

ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงกรณีที่สังคมมองว่า ระยะเวลาในการดำเนินการของตำรวจค่อนข้างล่าช้านั้น รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนมาก จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ได้มีการเรียกตัวผู้เสียหายเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายแล้ว

ขั้นตอนต่อไปคือเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายทหาร พนักงานสอบสวนจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้นายทหารพระธรรมนูญและแจ้งไปยังต้นสังกัดของนายทหารคนดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีในศาลทหารต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News