อาชญากรรม

เจ้าของบ้านผวา ชายฉกรรจ์ 4 คน พฤติการณ์แปลก บุกเข้าบ้าน 2 ครั้ง หวั่น ครอบครัวไม่ปลอดภัย

โดย attayuth_b

3 ก.ย. 2565

920 views

วันนี้ (3 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการเปิดเผยจาก นายสังขะ ศรีบุญ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 68 หมู่ 10 บ้านหนองกุง ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ว่า ในช่วง ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีชายแต่งกายและตัดผมสั้น พกพาวิทยุสื่อสารลักษณะคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถยนต์ เข้ามาจอด ใกล้บริเวณบ้าน แล้วอยู่ๆก็เดินเข้ามาในบ้านของชาวบ้านลักษณะรีบร้อนเหมือนจะมาจับคน พอเข้ามาพบแค่คนแก่ที่นั่งบดหญ้าเนเปียร์ เลี้ยงวัว อยู่ในลานบ้าน 4 คน เมื่อเห็นแค่คนแก่จึงแก้เขินด้วยการถามว่า บ้านของผู้ใหญ่บ้านอยู่ตรงไหนและขอซื้อหญ้าเนเปียร์บด ไป 3 กระสอบ แต่มีชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่หน้า ห้องคลีนิคของลูกสาว ยืนส่องดูว่าด้านในมีอะไร พอเห็นว่าบ้านหลังนี้มีกล้องวงจรปิด จึงบอกเพื่อนๆ และเดินออกจากบ้านไป พร้อมทั้งขับรถกะบะ 4 ประตูสีขาว ทะเบียน 1 กว 37 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาเอาหญ้าเนเปียร์ที่ซื้อไว้ แล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว

นายสังขะ บอกกับผู้สื่อข่าว อีกว่า การเข้ามาของชายฉกรรจ์ คล้ายตำรวจ เข้ามาในบ้านครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เกิดเหตุแบบนี้ ลักษณะการกระทำก็ทำเช่นนี้ บอกได้เลยว่า เจ้าของบ้านมีอาชีพเลี้ยงวัวและปลูกหญ้าขาย มีลูกผู้หญิง 3 คน มีครอบครัวแล้ว อาชีพรับราชการ ลูกเขย 2 คน ก็รับราชการ ลูกเขยอีก 1 คน ทำงานบริษัทเอกชน ทีรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถยนต์ 5 คันรถยนต์ที่ลูกๆใช้ขับไปทำงานทุกวัน ทางหากทางตำรวจเกิดข้อสงสัยและมีความประสงค์จะของตรวจค้นบ้าน เจ้าของบ้านยินยอมให้ตรวจค้น ขอแค่เพียงว่าอย่ากกระทำการเช่นนี้เพราะสิ่งที่กลุ่มบุคคลนี้ทำ ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเกิดความเข้าใจผิด และนินทากันไปว่า บ้านหลังนี้ทำอะไรผิดถึงมีตำรวจเข้ามาในบ้าน ทำให้เสียชื่อเสียงต่อครอบครัว ถ้าหากบุคคลกลุ่มนี้เป็นตำรวจจริงมีเหตุอันใดถึงกระทำการเช่นนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว น่าจะตรวจสอบไม่ยากเพราะรถแบบนี้ ชาวบ้านเขารู้ว่าเป็นรถตำรวจ และทะเบียนรถสามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้าไม่ใช่ตำรวจ ชาวบ้านจะทำอย่างไรถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ชาวบ้านวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบเพื่อความกระจ่างชัดด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ชายฉกรรจ์ ทั้ง 4 คน เป็นตำรวจจริง สังกัด สภ.แห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ หลังเกิดเหตุได้พยายาม เข้ามาเจรจาเพื่อขอทำความเข้าใจ จากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของบ้านไดัพบปะพุดคุยทำความเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News