ลูกหลอนยา คว้าสากกะเบือทุบหัวแม่ดับสลด ก่อนลากร่างไปตามถนน

จากกรณีพื้นที่หมู่ 1 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านได้ช่วยกันจับกุมชาย อายุ 41 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้สากกะเบือหินทุบหัวแม่วัย 73 ปี เสียชีวิตอย่างสลด ขณะกำลังลากร่างแม่ที่เจ็บสาหัสออกจากบ้านจะนำไปทิ้ง ชาวบ้านจึงออกไปห้าม และตามเพื่อนบ้านช่วยกันจับ พบสากกะเบือที่ทำด้วยหินเปื้อนเลือดตกอยู่ ส่วนแม่คนร้าย ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่ รพ.นาดี ส่วนผู้ก่อเหตุจับกุมส่ง สภ.นาดี 

วันที่ 1 กรกฎาคม 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปวัดพันธ์ศรี ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังจากญาติได้นำศพผู้เสียชีวิตตั้งบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา คือนางจ่อย อายุ 73 ปี โดยมีสามีของผู้เสียชีวิต รวมทั้งญาติพี่น้องจำนวนหนึ่งอยู่ในงานศพ ส่วนคนก่อเหตุชื่อนายประสิทธิ์ อายุ 48 ปี เป็นลูกชาย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้

เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตอยู่กินกับสามี มีลูกด้วยกัน 5 คน ทางผู้ก่อเหตุนั้นเป็นลูกแท้ ๆ มีอาการทางประสาทพร้อมเสพยาบ้าและดื่มเหล้า มักจะมีอาการก้าวร้าว หลอน และก่อเหตุทำร้ายแม่บ่อยครั้ง ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่ามาหาแม่เพื่อขอเงินไปซื้อ พอแม่ไม่ให้จึงก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

นายเจิม สามี กล่าวว่า ตนเองมีลูกรวม 8 คน เหลือมีชีวิต 5 คน โดยคนก่อเหตุเป็นลูกคนที่ 4 ก่อนหน้านี้เคยทำงานขับรถแบ็คโฮ แต่นายจ้างได้ใส่ยาบ้าในน้ำให้ดื่มกินจนติด เมื่อออกจากงานมาอยู่บ้านยังกินเหล้าขาว และดมกาว จนมีอาการทางจิตเวช ทางบ้านได้นำไปบำบัดรักษาอาการรวม 8 ปี

ก่อนเกิดเหตุ บุตรชายได้เดินจากบ้านไปหาแม่ เมื่อแม่เห็นลูกชายก็ดีใจ รีบหาข้าวปลาอาหารให้ลูกกิน ขณะที่แม่กำลังจะไปอาบน้ำ ลูกก็ถามหาบัตรประชาชนกับแม่ แม่บอกว่าไม่มี จากนั้นลูกจึงใช้สากกะเบือตีแม่แท้ ๆ ของตัวเองจนฟุบคาที่ ขณะเกิดเหตุนั้นทางลูกชายคนโต เจ้าของบ้านไปทำงานโรงกลึงจึงไม่มีใครอยู่บ้าน

ด้านพี่ชายคนโต กล่าวว่า ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้เป็นครอบครัวสุดท้าย ถ้าเสร็จจากงานศพ ชาวบ้านจะไปรวมตัวกันที่โรงพัก จะไปถามตำรวจว่าจะเอายังไง ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาอะไร ถ้ารักษาหายก็ต้องดำเนินคดี เพราะว่ามันมีบทเรียนถ้าออกจาก รพ.แล้วจะมาอยู่บ้านเลยไม่ได้ เรารับได้แต่ชาวบ้านเขารับไม่ได้อยู่ดี

นายเจิม สามี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ที่ก่อเหตุก็มาเผากระต๊อบจนวอด เงินถูกเผาเสียหายทั้งหมด แจ้งเจ้าที่ตำรวจมาดูก็เงียบหายไป  หากลูกออกจากโรงพยาบาลวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยรับไปดูแล เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำอีก