กองปราบฯ รับโอนสำนวนคดี 'สจ.โต้ง' ด้าน 'โกทร' ยังยืนกราน ไม่รู้เห็น

ความคืบหน้าคดียิง สจ.โต้ง หรือ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตนายกอบจ.ปราจีนบุรี



วันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อนุมัติให้โอนสำนวนคดีจากท้องที่มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบแล้ว ตามคำร้องของภรรยาผู้เสียชีวิต



ส่วนกลุ่มผู้ต้องหา ก็ยังคงมีเพียงนายสุนทร ที่ยืนกรานว่าไม่ส่วนรู้เห็นกับการสังหารสจ.โต้ง พร้อมทั้งได้เขียนจดหมายออกจากจากเรือนจำ บอกว่าจะขอโอกาสออกมาแถลงข่าวชี้แจงต่อสังคม



พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติ การโอนสำนวนคดีที่นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร จากสภ.เมืองปราจีนบุรี ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามแล้ว เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อเพียงหน่วยงานเดียว ตามคำร้องของนางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยา ซึ่งได้รับการยืนยันว่า หลังจากนี้ทางตำรวจ จะประสานไป เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลหรือสอบปากคำเพิ่มเติม



อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติพบาล เปิดเผย ว่า ได้รับจดหมายตอบกลับจากนายสุนทร ที่เขียนออกมาจากเรือนจำ โดยนายสันธนะ กล่าวว่า ตนได้พบกับผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครนายก และผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง ที่ส่งจดหมายถึงมือนายสุนทร แล้ว ก็ได้มีหนังสือเขียนตอบกลับมา ด้วยลายมือของตัวเองพร้อมลงชื่อ



มีใจความว่า อยากขอเวลาออกสื่อ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้นักข่าวและพี่น้องประชาชนทั่วประเทศทราบ



ซึ่งในวันพรุ่งนี้ เขาจะเดินทางไปเยี่ยมนายสุนทร ตามขั้นตอนปกติและจะประสานงานกับทางราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือว่าจะมีวิธีการไหนที่ทำได้หรือไม่ ในการให้นายสุนทร ได้พบกับนักข่าว



ต่อมาพันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การขอออกจากเรือนจำ​ของนายสุนทร เพื่อมาแถลงข่าว​ยืนยันความบริสุทธิ์นั้น ​ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่พนักงานสอบสวน และเท่าที่ทราบ​ อยู่ในอำนาจของศาล คนที่จะขอประกันตัวได้​ ก็คือญาติ​ และขึ้นอยู่กับศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่​



พันตำรวจเอกทวี​ ย้ำว่า​ นักโทษระหว่างการพิจารณาคดี​ ขึ้นอยู่กับศาลต้องขออนุญาตที่ศาล​ แต่ถ้านักโทษเด็ดขาด ที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้ว จะมีเงื่อนไขเช่นว่า​ กรณีที่พ่อแม่เสียชีวิต​ อาจจะขออนุญาตมางานศพได้​ แต่กรณีนี้ไม่ได้​ แต่หากจะทำได้​ ก็คือต้องขอประกันตัวเท่านั้น​



และวันนี้ครบรอบ 7 วันหลังเกิดเหตุยิงสจ.โต้งเสียชีวิต ในบ้านนายสุนทร เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่มีตำรวจหลายชุดลงพื้นที่พยายามหาแรงจูงใจและความเชื่อโยงถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่นอกจาก 7 คนที่ถูกควบคุมตัวไปแล้วคือนายสุนทรและลูกน้อง ปรากฏว่า มีการเปิดตัวละครปริศนา วันสังหาร สจ.โต้ง ขึ้นมาที่นอกจากกลุ่มที่ถูกจับตัวไปแล้ว



โดยแหล่งข่าวคนหนึ่งก็เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 พร้อมตั้งข้อสังเกตรูปคดี ว่า จุดเริ่มต้น วันสังหาร สจ.โต้ง เป็นการตัดสินใจ อย่างกระทันหัน ของ เจ้าตัว ที่เลือกกลับเข้าบ้านโกทร ทั้งอยู่ระหว่างเดินทาง มุ่งหน้า ไป จ.นครนายก แต่มีเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ สจ.โต้ง ตัดสินใจ กลับไปที่บ้านโกทร หลังวางสายโทรศัพท์



โดยมีบุคคลปริศนาคนนี้ใกล้ชิด กับ สจ.โต้ง และโกทร ซึ่งตำรวจ ก็ยังไม่มีการเรียกมาสอบปากคำ



ซึ่งบุคคลปริศนาดังกล่าว คืนวันเกิดเหตุ สจ.โต้ง วางแผนให้บุคคลปริศนา ต่อสายหา โกทร โดยมีการดัดเสียง อ้าง เป็นผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ เพื่อหลอกถาม ว่า จะส่งใครลงสมัครชิงตำแหน่ง นายกฯ อบจ.



แต่ปรากฏว่า โกทร ยืนยันว่า จะไม่สนับสนุนคนของ สจ.โต้ง ทำให้สจ.โต้ง ไม่พอใจ จึงกลับรถมุ่งหน้าไปเคลียร์กับโกทร ที่บ้านทันที ซึ่งสอดคล้องกับคลิปเสียง ที่ระบุว่า จะส่งใครลงแข่งมันต้องมีการตายเกิดขึ้น พอเข้าไปเคลียร์กับโกทร รอบแรก มี รองอุ๊ ร่วมอยู่ในเหตุการณ์



แหล่งข่าวเปิดเผย ข้อพิรุธ ด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ที่ถูกจับกุมในวันเกิดเหตุ ทุกคนต่างสวมรองเท้าผ้าใบ ชี้ให้เห็นว่า ผิดปกติ ในการเข้าบ้านนาย และแสดงให้เห็นว่า มีการเตรียมการล่วงหน้าถึงการก่อเหตุสังหารสจ.โต้งเอาไว้แล้วหรือไม่