เปิดเบื้องหลัง 'หวานใจอดีตรองนายกฯ' พบเส้นเงิน 10 ล้าน เอี่ยวรีสอร์ทหรูรุกที่ดินส.ป.ก.

วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า สำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.จะเดินหน้ายึดคืนที่ดินที่ดิน ส.ป.ก. จากผู้ไม่มีสิทธิ์ครอบครองและดำเนินคดีเด็ดขาด

ท่ามกลางประเด็นว่า ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีฯกระทรวงเกษตรฯ ได้พบข้อมูลว่า มีเงินจากผู้ครอบครองที่ ส.ป.ก.โดยผิดกฎหมาย ที่สระบุรี โอนเงินกว่า 10 ล้านบาท เข้าบัญชีหญิงคนสนิทของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ใช้คำว่าหญิงที่เป็น "หวานใจ" โดยตำรวจกำลัง ตรวจสอบ อย่างละเอียด โดยก่อนหน้านี้ มีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่สปก. และนักธุรกิจสินเชื่อรายใหญ่ ถูกดำเนินคดีด้วย


รีสอร์ทชื่อไร่ภูนับดาวนี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปช. ปปท.ดีเอสไอ และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าไปสำรวจซ้ำอีกครั้ง เพราะเมื่อเดือน 29 พฤษภาคม ปีนี้ ยังพบเปิดกิจการทำประโยชน์อยู่ ทั้งที่เคยถูกดำเนินคดีไปแล้ว


และนับจากลงพื้นที่ครั้งนั้น ก็มีการตรวจสอบทางคดีเรื่อยมา จนล่าสุดมีเบาะแสว่าพบความเชื่อมโยงกับคนใกล้ชิดนักการเมือง ระดับอดีตรองนายกรัฐมนตรีรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่าตำรวจสอบสวนกลางทำคดีนี้ และพบการทุจริตของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่สปก.และเส้นเงินไปถึงคนใกล้ชิด ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี


จากข้อมูลพบการโอนเงินครั้งละ 2 ล้าน โอน 5 ครั้งรวม 10 ล้าน ให้หญิงที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ใช้คำว่า "หวานใจ" ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเรียกมาชี้แจงเส้นเงินนั้นด้วย ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นสิ่งที่ผู้กระทำต้องชี้แจง หากเกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบ


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบายฯ ยึดคืนที่ดินสปก.ให้เกษตรกร แต่ระบุว่ายังไม่ได้รับรายงาน เรื่องที่ "หวานใจ"อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่


โดยที่มาของที่ดินแปลงนดังกล่าว มาจากระหว่างปี 2558-2559 เจ้าหน้าที่ ปปท.ร่วมกับกรมป่าไม้ จับคนกลุ่มหนึ่งรุกที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งปลูกเป็นสวนป่า ชื่อ "สวนป่าปางหัวช้าง คลองไทร" อำเภอมวกเหล็ก โดยแผ้วถางแบ่งแปลงทำกิน คดีนี้มีผู้ถูกดำเนินคดี 6 คน โดย 1 คนเป็นภรรยาของปลัด อบต. ศาลฏีกาพิพากษาจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา ที่เหลือกอีก 5 คน รับสารภาพทั้งหมด ศาลสั่งจำคุกโทษจำคุกรอลงอาญา


ทั้งนี้คดีสิ้นสุดแล้ว แต่ปรากฎว่า ในปี 2560 มีการประชุมเพื่อจะนำที่ดินเหล่านี้ที่ศาลพิพากษาว่าเป็นสวนป่า มาออกเอกสาร สปก.ท่ามกลางการคัดค้านของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยนายอำเภอมวกเหล็กขณะนั้นระบุว่าการดำเนินคดีผู้บุกรุกถือเป็นคดีอาญา แต่เป็นคนละส่วนกับที่จะนำที่ดินเหล่านั้นมาออกสปก. ซึ่งเป็นเรื่องทางปกครอง ทำให้ในที่สุด มีการ ออกเอกสาร สปก.จนได้


แต่ปรากฎว่ากลุ่มคนที่ได้สิทธิ์ มีทั้งที่เคยถูกดำเนินคดีบุกรุกแผ้วถาง ภรรยาปลัด อบต.ที่พ้นโทษจำคุก ก็ได้สิทธิ์ สปก.นั้น รวมถึงลูกชายนายอำเภอด้วย


การออกเอกสารสิทธิ์ สปก.ครั้งนั้นกินพื้นที่ เกือบ 700 ไร่ /มีหลายคนที่ได้สิทธิ์ สปก.ไปแล้ว นำมาผนวกรวมเป็นพื้นที่ติดกันประมาณ 100 ไร่กลายเป็นภูนับดาว มีเจ้าของบริษัทให้สินเชื่อรายใหญ่คนหนึ่งของประเทศ เกี่ยวข้องด้วย. และนอกจากพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ดังกล่าวแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 600 ไร่ ในตำบลหนองย่างเสือ ที่ออกเอกสาร สปก.ไปแล้วก็ถูกตั้งคำถามเช่นกันว่า ผู้ครอบครองทำกินเป็นเกษตรกรหรือไม่

เพราะมีหลายร้อยไร่ ที่พบว่าผู้ครอบครอง เป็นพนักงานบริษัทเอกชนรายใหญ่ มีเลขบัตรประกันสังคม ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นเกษตกรที่ได้รับสิทธิ์ สปก.


นอกจากนี้ทีมข่าว 3 ตรวจสอบสถานะล่าสุดพบว่า คดีนี้ ปปท.ได้ส่งสำนวนคดีให้กับ ปปช.พิจารณาแล้ว ในความผิดอาญามาตรา 157 ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ต่อายอำเภอมวกเหล็กคนดังกล่าว ซึ่งเกษียณราชการไปแล้ว ในตำแหน่ง รองผู้ว่าราการจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ สปก.สระบุรี กำนัน รวมถึงเอกชนอีกหลายคน ที่เกี่ยวข้องฐานสนับสนุน เจ้าพนักงานให้กระทำผิดด้วย


ทีมข่าว 3 มิติตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าคำพิพากษาศาลฏีกาตัดสินชัดเจนว่า ที่ดินที่บุกรุกนั้น เป็นสวนป่าชื่อ "สวนป่าปางหัวช้าง คลองไทร" แม้ต่อมา จะออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ไปกว่า 700 ไร่ แต่หากการดำเนินคดีเอาผิดอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด และสปก.ว่า การประกาศเขต สปก.นั้น เป็นการปฎิบัติหน้าที่มิชอบ นั่นหมายความแปลง สปก.ทั้งหมด ที่ไม่ใช่เฉพาะไร่ภูนับดาวนั้น ก็น่าจะถื่อว่าเป็นการออกโดยมิชอบด้วยหรือไม่