อาชญากรรม

ตร.ยิงเมียนมาดับในรพ. อ้างฉุนอีกฝ่ายชอบกวนพ่อ เบื้องต้นตรวจพบฉี่ม่วง

โดย panwilai_c

8 มิ.ย. 2567

9.5K views

ความคืบหน้า เหตุคนร้ายบุกเข้าไปจ่อยิงชายชาวเมียนมา ขณะนอนรอเข้ารับการผ่าตัด ภายในโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ท่ามกลางข้อสงสัยว่า มือปืนรายนี้เป็นใคร เเละทำไมถึงกล้าทำในสถานพยาบาล ในที่สุดก็ชัดเจนเเล้วว่ามือปืนผมเกรียนที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด เป็นตำรวจสังกัด สภ.พระยืน ชื่อ สิบตำรวจเอก วีระพงษ์ บัวเย็น ตัดสินใจเข้ามอบตัวเเละรับสารภาพ อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ไม่พอใจที่ผู้ตายก่อกวนพ่อที่นอนรักษาตัวอยู่เตียงใกล้กัน คุมตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง เตรียมขยายผลเเละแจ้งข้อหาเพิ่ม



เช้าวันนี้ ส.ต.อ.วีระพงษ์ บัวเย็น อายุ 34 ปี ตำรวจ สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธจังหวัดขอนแก่น หลังก่อเหตุใช้ปืนจ่อยิง นายจอ ชอ อ่อง ชาวเมียนมา อายุ 29 ปี เสียชีวิตในโรงพยาบาลขอนแก่น ในคืนวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น



พล.ต.ต.อนุวัตร เปิดเผยหลังเข้าร่วมสอบปากคำ ส.ต.อ.วีระพงษ์ โดยบอกว่าผู้ต้องหาติดต่อขอมอบตัวพร้อมรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุผู้ต้องหาอ้างว่า เดินทางไปเยี่ยมพ่อที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยนอนเตียงใกล้เคียงกับผู้ตาย จากนั้นผู้ตายมาหาเรื่องพ่อ จึงใช้ปืนยิงใส่ที่หัว ตอนนั้นทำไปโดยไม่รู้สึกตัวก่อนเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน ญาติทราบเรื่องจึงติดต่อเข้ามอบตัว ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาให้การวกวน ทราบจากญาติว่า มีอาการป่วยทางประสาท



จากนี้จะคุมตัวฝากขังที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนให้ทนายความและนักจิตวิทยาร่วมสอบปากคำ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" เเละจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 10 มิ.ย.นี้



ขณะที่แฟนของผู้ตาย บอกว่า พอรู้ว่าผู้ต้องหาเป็นตำรวจก็รู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างถูกก่อกวน ยอมรับว่าอาจจะมีส่วน เพราะแฟนชอบเล่นโทรศัพท์จนดึก มีเสียงรบกวนบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะทำกันรุนแรงขนาดนี้



ล่าสุด เจ้าหน้าที่คุมผู้ต้องหาตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏว่าเป็นสีม่วง แต่เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาก็จะส่งตัวไปที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น ให้แพทย์ทำการตรวจซ้ำว่า ปัสสาวะสีม่วงที่ตรวจพบในเบื้องต้นนั้น เป็นสารเสพติดจริงหรือไม่ เเละหากเป็นสารเสพติดที่มาจากการเสพยาบ้า ก็จะสอบสวนขยายผลหาที่มาว่า ผู้ต้องหาติดต่อซื้อยาเสพติดจากผู้ใดมาเสพ และจะทำการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมาย



ขณะที่การสอบสวนเพิ่มเติม จนถึงตอนนี้ผู้ต้องหายังพูดย้ำคำเดิมว่า ยิงจริง แต่ไม่รู้ยิงทำไม และไม่รู้จักกับคนตายมาก่อน ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่ามาจากอาการที่เกิดจากการเสพยาเสพติหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาก่อนจึงจะสรุปได้

คุณอาจสนใจ