วันที่ 4 ช่วง 7 วันอันตราย เสียชีวิตรวม 162 ราย จ.นครสวรรค์ มากที่สุด

วันที่ 4 ของการรณรงค์ช่วง 7 วันอันตรายสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ยังเกิดจากการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ

ล่าสุด ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ นับตั้งเเต่วันที่ 11 เมษายน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 162 ราย รวมทั้งวันนี้มีการเตือนเรื่องฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 17 ด้วย

ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เมษายน 2567 เกิดอุบัติเหตุ 317 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 311 คน ผู้เสียชีวิต 38 ราย

ขณะที่ตัวเลขสะสมในช่วง วันของการรณรงค์ นับตั้งเเต่วันที่ 11 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,259 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,279 คน ผู้เสียชีวิต รวม 162 ราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 37.22 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.87 ทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 16.46 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 87.51 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรงมากถึงร้อยละ 80.76 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.65 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.33 เวลาช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 18.01 – 19.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี

จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์ มี 21 จังหวัด ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ น่าน 14 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดได้แก่ น่าน 16 คน เเละจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่นครสวรรค์ 3 ราย

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 50 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 54 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและร้อยเอ็ด 10 ราย

และล่าสุด ศปถ.ได้ประสานทุกจังหวัดดูความปลอดภัย รับคนกลับคืนกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักขาเข้ากรุงเทพฯ และเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค เน้นการจัดตั้งจุดตรวจและเพิ่มความถี่เรียกตรวจในเส้นทางเสี่ยง โดยเฉพาะทางตรงที่มีระยะทางไกลและจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย

จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงวันที่ 15 – 17 เมษายน 2567 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ทำให้ถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอฝากเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง ในการขับขี่เป็นพิเศษ