ดีเอสไอ ประชุมสางคดีนำเข้า หมู-ไก่-เนื้อ เถื่อน

คดีที่ข่าว 3มิติเกาะติดมาตั้งแต่เป็นเพียงข่าวการร้องเรียนจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย จนกลายเป็นคดีพิเศษที่ดีเอสไอเรียกว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมที่กระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและเกษตรกร คือคดีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน โดยหลีกเลี่ยงภาษี และล่าสุดวันนี้ ดีเอสไอ ประชุมคณะทำงานชุดใหญ่อีกครั้ง หลังขยายผลจากหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ จนพบการลักลอบเพิ่มทั้งหมูเถื่อน เนื้อวัวเถื่อน และนำเข้าตีนไก่จากอเมริกาใต้แล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าจากไทยเพื่อส่งไปจีน ซึ่งสองกรณีนี้รวมกันมีมูลค่ากว่า 8พันล้านบาท และ ดีเอสไอ ก็รับเป็นคดีพิเศษแล้ว

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน เรียกประชุมคณะทำงานชุดใหญ่ในวันนี้ เพื่อกำหนดแผนคลี่คลายคดี ที่รับเป็นคดีพิเศษเพิ่มอีก 2 คดี คือคดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีพบการนำเข้าหมูเถื่อน 2388 ตู้คอนเทนเนอร์ และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีการนำเข้าเนื้อหมู ไก่ และเนื้อวัวเถื่อน ที่พบว่ามีมากกว่า 1 หมื่นตู้

กรณีคดีพิเศษที่ 126/2566 เป็นการขยายผลจากการตรวจสอบหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ จนไปพบว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า 161 ตู้นี้ มี 9 บริษัท ที่เคยนำเข้าสินค้าที่สงสัยว่าสำแดงเท็จ รวมกันทั้งหมด 2,388 น้ำหนักรวมกัน 71,668 ตัน มูลค่าสินค้า 1500 ล้านบาท โดยดีเอสไอระบุว่า คดีนี้จะมีผู้ต้องหารวมกันมากกว่า 10 คน

ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลว่าการนำเข้าสินค้าเกษตร 2388 ตู้คอนเทนเนอร์ชุดนี้ มีขึ้นระหว่างปี 2564-2565 ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง พบการสำแดงสินค้าที่เสียภาษีอาการเป็น 0 หรือสำแดงสินค้าที่เสียภาษีต่ำ โดยพบการนำเข้าสินค้าเหล่านี้มากผิดปกติเช่น

บริษัท อาร์ ที เอ็น โอเวอร์ซี นำเข้าโพลิเมอร์ มากถึง 888 ใบขน บ.ซีเวิร์ล โฟรเซ่นฟู้ด นำเข้าปลาแช่แข็งมากถึง 20 ใบขน บริษัท มายเฮาร์ เทรดดิ้ง 214 ใบขน -ซึ่งกรณี้อ้างว่านำเข้ามาแล้วไปเก้บในห้องเย้นแห่งหนึ่งที่สมุทรสาคร แต่ดีเอสไอไปตรวจแล้วพบว่าไม่มีสินค้าเก็บอยู่จริงและใช้เอกสารปลอม นอกจากนี้ยังมี บ.ศิขัณทิน เทรดดิ้ง 448 ใบขน บ.สมายด์ ทอป เค เอนเตอร์ไพร์ส 628 ใบขน เป็นต้น

สำหรับบริษัทเรนโบว์ กรุ๊ป ที่ผุ้บริหารเกี่ยวข้องกับการคดีหุ้นมอร์ด้วยนั้น พบการนำเข้าสำแดงเป็นไข่แดง 81ใบขน ซึ่งแต่ละใบขนหมายถึงใบอนุญาตขนสินค้าเข้าราชอาณาจักร กรณีนี้การอ้างใบขน 2,385 ใบขน แต่จำนวนตู้มี 2,388 ตู้คอนเทนเนอร์ เพราะใบขนบางใบ มีสินค้าได้มากกว่า 1 ตู้คอนเทนเนอร์

นอกจาก คดีพิเศษที่ 126/2566 เกี่ยวกับกรณีสินค้า 2,388 ตู้ดังกล่าว ยังมีคดีพิเษที่ 127/2566 ที่พบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ไก่ และเนื้อวัวเถื่อน รวมมากกว่า 1 หมื่นตู้ ถือเป็นคดีใหม่ ที่ขยายผลมาจากการนำเข้าโดยสำแดงเท็จ

หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษระบุว่าผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มนี้ ไม่ใช่ผู้ที่ถูกดำเนินดนในกรณี 161 ตู้ แต่เป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวกันของนายทุน ข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่ รวมกันหลายร้อยคน นำเข้าตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันมีเงินหมุนเวียน 6-7 พันล้านบาท

ในแง่การคลี่คลายคดี กรณีสินค้า 2,388 ตู้ นั้น ดีเอสไอ อยู่ระหว่างเอกสารเช่นใบขนสินค้า และข้อมุล GPS Tracking ที่ติดตามรถบรรทุกสินค้าว่าออกจากท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ไปเก็บในห้องเย็นใดบ้าง คาดว่าจะชัดเจนภายใน 1-2 เดือน

ส่วนกรณีสินค้าที่นำเข้ามา 1 หมื่นตู้ก่อนหน้านั้น จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งบริษัทเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงขอเอกสารเพิ่มเติมจากประเทศจีน ในกรณีที่พบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแล้วมาสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทย เพื่อส่งขายไปประเทศจีน โดยจะประสาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนกลุ่มนี้ด้วย