อาชญากรรม

ผู้ปกครองยินยอมให้ ด.ช.14 รักษาต่อ หลังครบกำหนดฝากขัง

โดย attayuth_b

1 ม.ค. 2567

87 views

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้า การปล่อยตัวเด็กชายวัย 14 ปี มือกราดยิงปืนที่ห้างสยามพารากอนจนมีผู้เสียชีวิต หลังตำรวจส่งสำนวนคดีให้อัยการไม่ทันตามกำหนดเป็นเหตุให้หมดอำนาจควบคุมตัวเพื่อรับการรักษาและสอบปากคำที่สถาบันกัลยาณราชนครินทร์ ตั้งแต่เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาว่า แต่คณะสหวิชาชีพผู้ร่วมรักษาเด็ก ระบุว่า แพทย์ได้ลงความเห็นว่าเด็กยังมีอาการป่วยจิตเวช ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหาย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายของเด็กที่อาจก่อกับสังคม ที่สุดผู้ปกครองก็ยินยอมให้นำเด็กเข้ารักษาอาการป่วยต่อไปจนกว่าจะพร้อมให้การในคดีได้


นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องการรักษาตัวเด็กชายผู้ก่อเหตุที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ต่อไปนั้น ได้พูดคุยกับหนึ่งในคณะสหวิชาชีพผู้ร่วมรักษาเด็ก ระบุว่า แพทย์ได้ลงความเห็นว่าเด็กยังมีอาการป่วยจิตเวช ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหาย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายของเด็กที่อาจก่อกับสังคม และต้องสอบสวนโรคหาสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ โดยเป็นไปตามหลักนิติจิตเวช โดยแพทย์จะต้องแจ้งผู้ปกครองถึงเงื่อนไขเหล่านี้เพื่อยินยอมให้รักษาต่อ เนื่องจากการรับการรักษาต่อที่สถาบันนั้น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยและผู้ปกครองตามกฎหมาย แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต ปี 2551 มาตรา 22 และ 36 ในการควบคุมตัวรักษาตัวต่อไป เพราะเนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเยาวชนเองและสังคมหากปล่อยตัวไป


แต่วันที่ 31 ธันวาคม หรือ เมื่อวานนี้ เป็นวันที่ครบกำหนดผัดฟ้อง 7 ผัด รวม 84 วัน ที่เด็กต้องอยู่ในความดูแลของกรมพินิจฯ แต่ตำรวจทำสำนวนส่งฟ้องไม่ทัน ดังนั้นตามกฎหมายก็ต้องปล่อยตัวเด็กให้ไปอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองต่อไป


กำหนดที่จะต้องถูกปล่อยตัว คือ 10 โมงเช้าวันนี้ โดยพ่อและแม่ของเด็กชาย เข้ามาปรึกษาร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อพิจารณาว่า หากได้รับการปล่อยตัวครอบครัวจะดูแลอย่างไรต่อ ในการหารือ 3 ฝ่าย ครั้งนี้ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระบุว่า ทางครอบครัวยินยอมให้เยาวชนผู้ก่อเหตุอยู่ภายใต้การรักษาตัวของสถาบันต่อไป ซึ่งคาดว่าทางครอบครัวจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล โดยบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทางครอบครัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


ส่วนจะรักษาตัวนานเท่าใดและมีแผนการรักษาอย่างไร ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากเป็นดุลพินิจของแพทย์ แต่ตอนนี้กรมพินิจฯ ได้หมดอำนาจการควบคุมตัวแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของทางแพทย์กับครอบครัว ส่วนเรื่องคดี แพทย์จะเป็นผู้ทำรายงานวินิจฉัยการประเมินสุขภาพต่าง ๆ และนำส่งให้กับทางพนักงานสอบสวนต่อไป


ทางด้าน พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ตอนนี้ในทางคดีต้องหยุดการสอบสวนเอาไว้ก่อน ต้องรอจนกว่าแพทย์จะส่งรายงานให้ความเห็นว่า เด็กผู้ก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะสู่ภาวะปกติเพียงพอที่จะสามารถสอบสวนทางคดีได้

คุณอาจสนใจ

Related News