เร่งตรวจสอบเหตุพายุพัดหลังคาโรงยิมฯ โรงเรียนวัดเนินปอถล่ม เสียชีวิตรวม 7 ราย

เหตุสลดใจที่อาคารยิมเนเซียม โรงเรียนวัดเนินปอ จังหวัดพิจิตร ถูกพายุพัด จนพังทับทีมฟุตบอลเนินปอจูเนียร์ จนมีผู้เสียชีวิตรวม 7 คน เมื่อวานนี้ ทำให้หลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ จังหวัดพิจิตร และตำรวจภูธรภาค 6 เร่งตรวจข้อเท็จจริงในทุกๆด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างอาคารหลังนี้ แม้ว่าจะเป็นเงินที่ชาวบ้านบริจาค กันเองเพื่อสร้างให้โรงเรียนใช้ประโยชน์ แต่ก็ต้องการให้เกิดความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก



นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดพิจิตร เป็นผู้แทนพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เชิญเงินสงเคราะห์ ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต จำนวน 7 คน จากเหตุวาตภัย บริเวณโรงยิม โรงเรียนวัดเนินปอ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้



นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ประกาศให้ตำบลเนินปอและตำบลใกล้เคียงอีก 2 แห่ง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อนำงบประมาณไปช่วยผู้ประสบภัยอีกกว่า 408 ครอบครัวใน 3 ตำบล ที่เสียหายจากพายุด้วยเช่นกัน



ขณะที่เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองพิจิตร พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ก็เข้าไปตรวจสอบอาคารหลังนี้ เพื่อนำเข้ามูลไปวิเคราะห์ว่าอิทธิพลของพายุมีส่วนโดย ตรงต่อการพังลงมากน้อยเพียงใด รวมถึงวัสดุที่ใช้สร้างอาคาร มีความมั่นคงแข็งแรงมากน้อยเพียงใด



ส่วนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายธีร์ ภวังควันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ กลุ่มออกแบบฯ ไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อเป็นกรณีศึกษาของกระทรวงฯด้วย



ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่าได้กำชับให้โรงเรียนอื่นๆ ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในโรงเรียนทุกมิติ เพื่อประเมินความปลอดภัย โดยเฉพาะอาคารที่มีอายุการใช้งานมานาน หรือสร้างผิดแบบต้องระงับหรือรื้อถอนทันที และเหตุการณ์นี้ต้องเป็นบทเรียนให้ทุกโรงเรียนเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก



ขณะที่พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ก็ลงพื้นที่พิจิตร พร้อมสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งในแง่การเป็นตัวกลาง ประสาน ระหว่างชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กับหน่วยงานภาครัฐที่จะให้การช่วยเหลือ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลกรณีอาคารฯดังกล่าวพังลงมาด้วย



ส่วนนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งให้ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจจากกรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่ดูแลประคับประคองจิตใจ ครอบครัวผู้สูญเสียหาย และผู้บาดเจ็บจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย



สำหรับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนหนึ่งเป็นโค้ช เป็นผู้ปกครอง และเป็นนักกีฬาทีมเยาวชนของหมู่บ้าน ในชื่อ "เนินปอจูเนียร์" มีเยาวชนจากโรงเรียนหลายแห่งในเขตอำเภอสามง่ามร่วมทีม เช่นโรงเรียนรังนกเนินปอราชอุทิศ โรงเรียนวัดเนินปอ โรงเรียนบ้านเนินพะยอม โรงเรียนสระยายชีมิตรภาพ ที่ 79 อายุระหว่าง 6-13 ปี มีนักฟุตบอลในทีม 16 คน โค้ช 1 คน ส่วนผู้ช่วยโค้ช ให้ผู้ปกครองนักเรียนที่ว่างมาช่วยฝึกซ้อม และใช้สนามโรงเรียนวัดเนินปอ เป็นที่ฝึกซ้อม



ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน ประกอบด้วยนายดัง อ่องแดง นักการภารโรง โรงเรียนวัดเนินปอ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโค้ชฟุตบอลด้วย นายนที คุ้มประดิษฐ์ ผู้ปกครองนักเรียน นางวันเพ็ญ จันทร์มล ผู้ปกครองนักเรียน ส่วนนักเรียนที่เสียชีวิต 4 คน ประกอบด้วยนักเรียนชาย ชั้น ป.1 โรงเรียนวัดเนินปอ จำนวน 2 คน และนักเรียนชายชั้น ม.1 โรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ อีก 2 คน



ส่วนผู้บาดเจ็บ 18 คนนั้น มีผู้ปกครองนักเรียน 3 คน ที่เหลืออีก 15 คน มีทั้งนักเรียนชายและหญิง ตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงอนุบาล 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่1 ถึง 4 และชั้น มัธยมปีที่ 1 กับชั้นมัธยม ปีที่ 4 ม.2



เมื่อเช้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ซึ่งกระจายกันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลพิจิตร โรงพยาบาลสามง่าม โรงพยาบาลวชิระบารมี และโรงพยาบาลเอกชน พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ



ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งบอกว่าสามีของตัวเอง ไปเฝ้าดูลูกชายที่ไปซ้อมฟุตบอล โดยเธอเองตามสามีไปในภายหลัง ระหว่างนั้นเกิดลูกเห็บและฝนเริ่มตก ทำให้ทุกคนย้ายไปซ้อม ภายในอาคารโรงยิมฯ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโดม จากนั้นก็เกิดลมพายุฉับพลัน จนเธอเองสลบไปและมารู้สึกตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลและรู้ภายหลังว่าสามีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ



วันนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน ทะยอยจัดงานศพให้ผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความสลดใจของผู้ปกครองและญาติ รวมถึงผู้มาให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย