(13 ส.ค. 67) จากกรณี เจ้าหน้าที่นิติบุคคลย่าน นนทบุรี ร้องเรียนมายังทีมข่าว เนื่องจากถูกลูกบ้าน ด่าทอหยาบคาย ถ่มน้ำลายใส่หน้าไม่พอ ซ้ำทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเพียงแค่ไม่พอใจลูกบ้านห้องอื่น ต่อเติมซ่อมแซมห้องพัก โดยทางนิติได้แจ้ง ลูกบ้านพร้อมส่งหนังสือไปแล้ว แต่ลูกบ้านคนดังกล่าวไม่พอใจ ด่าเช้าด่าเย็น ทำให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลถึงขั้นปิดออฟฟิศหนี เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

คลิปดังกล่าวเป็นคลิปกล้องวงจรปิดจับภาพบริเวณนิติบุคคลแห่งหนึ่งย่าน นนทบุรี โดยคลิปดังกล่าวจับภาพในขณะที่ลูกบ้าน เดินมาต่อว่าด่าทอเจ้าหน้าที่นิติบุคคล ในขณะที่นั่งทำงานอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลีกเลี่ยงและปิดไฟ เพื่อที่จะเดินออกจากประตู แล้วออกไปที่อื่น กลับถูกลูกบ้าน ถ่ายคลิปวิดีโอ แล้วผลักเจ้าหน้าที่หลายครั้ง จนทำให้หัวของเจ้าหน้าที่ไปชนเข้ากับประตู จากนั้นนิติก็พยายามผลักลูกบ้านออก แล้วเดินออกไปที่ประตู แต่กลับถูกลูกบ้านกระชากหัวให้กลับมา จากนั้นนิติได้ผลักลูกบ้านไป 1 ครั้ง ลูกบ้านใช้เท้าถีบนิติ จากนั้นมีการลงไม้ลงมือกัน

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นิติบุคคลผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากที่ลูกบ้านไม่พอใจการบริหารงานของนิติบุคคล เรื่องที่ลูกบ้านท่านอื่นๆ ได้มีการส่งเอกสารขอต่อเติมห้องพักอาศัย เนื่องจากคอนโดดังกล่าวมีสภาพที่เก่ามากแล้ว สร้างมาได้ประมาณ 30 ปี หลายๆ ห้องพักจะมีการต่อเติมซ่อมแซม เพื่ออยู่อาศัย แต่ทางนิติบุคคลจะมีกฎว่า หากมีช่างหรือผู้รับเหมาเข้ามาซ่อมแซม ต่อเติม ต้องแจ้งทางนิติบุคคลก่อน เพราะจะสามารถให้ช่างเข้ามาปฏิบัติงานได้แค่ วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 09.00-17.00 น. 

หากลูกบ้านห้องไหนต่อเติม ลูกบ้านคนดังกล่าว ก็จะด่าผ่านไลน์มิติบุคคล ทำให้นิติทุกคนไม่อยากปะทะ ก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้ แต่หลังๆ เริ่มลงมาด่าที่ออฟฟิศของนิติบุคคล ก็จะลงมาโวยวาย ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นแบบนี้เรื่อยมา ทางตนก็พยายามพูดคุยด้วยดี พยายามให้เหตุผล ว่าลูกบ้านได้ขออนุญาตต่อเติม เป็นสิทธิ์ของลูกบ้านท่านนั้นๆ แล้วทางนิติติดประกาศแจ้งลูกบ้านเป็นที่แล้วร้อยแล้ว แต่ลูกบ้านคนดังกล่าวก็ยังไม่พอใจ หลายๆ ครั้งที่ถูกด่าทอ ตนและพนักงานทุกคนก็จะนิ่งเงียบข่มอารมณ์ หากวันใดลูกบ้านคนดังกล่าวมาพร้อมแฟน ก็จะช่วยกันยืนด่านิติบุคคล ราวกับว่าเป็นแรงฮึกเหิมให้กัน

เหตุการณ์เริ่มหนักขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 คู่กรณีลงมา สอบถามเรื่อง ลูกบ้านนำถังน้ำของตัวเองมาตั้งทิ้งไว้ที่ ร้านกรอกน้ำ จากนั้นถังน้ำหายไป จึงให้ทางนิติตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางนิติทำการตรวจสอบให้แล้ว แต่ทางคู่กรณีไม่พอใจยืนด่าทอที่หน้าออฟฟิศนิติบุคคลโดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ท้าทายให้ออกไปคุยด้วย พร้อมอัดคลิปวิดีโอ ทางคู่กรณีเดินมาเปิดกระจกบานเลื่อน แล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าตนเอง ทำให้ตนเองรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนต้องไปลงบันทึกประจำวัน

ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองรับไม่ได้ คือวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ในขณะที่ตนเองนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศนิติบุคคล ของคอนโดดังกล่าว คู่กรณีไม่พอใจที่มีลูกบ้านห้องอื่นต่อเติมซ่อมแซมห้องพัก คู่กรณีได้เดินมาที่หน้าห้อง พร้อมด่าทอเหมือนเช่นเคย ซึ่งตนไม่สามารถนั่งทำงานได้ จึงพยายามหลีกเลี่ยง ในขณะที่ตนเองพยายามเดินออกจากออฟฟิศ ระหว่างที่กำลังปิดประตู คู่กรณีได้ผลักตนหัวไปกระแทกกับประตูบานเลื่อน ตนเองก็ผลักกลับ และพยายามใจเย็นเดินหนีเปิดประตู จังหวะนั้นคู่กรณีได้กระชากผมของตนเอง ทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บมาก ตนจึงผลักคู่กรณีไปหนึ่งครั้ง คู่กรณียกเท้าถีบตน จากนั้นตนก็พยายามตบกลับ จากนั้นก็ชุลมุน นอนสู่กันอยู่ตรงนั้น จนมีลูกบ้านคนอื่นๆ เข้ามาช่วยห้ามปราม

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนได้เข้าไปแจ้งความ เป็นรอบที่ 2 รอบแรกคือเรื่องที่คู่กรณีด่าทอหมิ่นประมาท ถ่มน้ำลายใส่ รอบล่าสุดคือเรื่องทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนมองว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตั้งแต่ตอนแรก เรื่องการร้ายร่างกายก็ควรไม่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แค่รับเป็นรายงานประจำวัน

ที่ตนออกมาร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจาก คดีความไม่คืบหน้า และตนเองยังถูกขู่ฆ่า โดยคู่กรณีบอกว่า "เดี๋ยวจะเอาปืนมายิง" ทำให้ตนเองต้องหวาดกลัว และไม่สบายใจเป็นอย่างมาก