'บิ๊กโจ๊ก' แถลงปิดคดี 'แอม ไซยาไนด์' สรุป 15 คดี 75 ข้อหา ไม่เข้าข่ายลดโทษจากการตั้งครรภ์

อาชญากรรม

'บิ๊กโจ๊ก' แถลงปิดคดี 'แอม ไซยาไนด์' สรุป 15 คดี 75 ข้อหา ไม่เข้าข่ายลดโทษจากการตั้งครรภ์

30 มิ.ย. 2566

318 views

วันนี้บิ๊กโจ๊กแถลงสรุปสำนวนคดี "แอม ไซยาไนด์" พบพฤติกรรมเข้าข่าย "ฆาตกรต่อเนื่อง" ส่วนชนวนเหตุ หากเหยื่อเป็นผู้หญิงจะเกี่ยวกับเงินและทรัพย์สิน ถ้าเหยื่อเป็นผู้ชายจะเป็นคดีเกี่ยวกับเพศ พร้อมดำเนินคดีอดีตสามีตำรวจ-ทนายพัช ฐานให้ความช่วยเหลือ



คดีนี้ตำรวจใช้เวลา 2 เดือนครึ่ง ทำคดีของนาง สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ โดยตั้งต้นจากคดีของ "ก้อย " ผู้เสียชีวิตขณะปล่อยปลา ที่ท่าน้ำในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 จากนั้นมีญาติของเหยื่ออีกหลายคนแสดงตัว



จนทราบว่า "แอม" วางยาฆ่าเจ้าหนี้ถึง 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด โดยคดีแรกเกิดในปี 2558 ต่อเนื่องถึงปี 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิตแค่ 1 ราย และผู้เสียชีวิตมีความเกี่ยวพันกับ "แอม" ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ ซึ่งสาเหตุมาจาก ติดพนันออนไลน์ ทำให้มีหนี้สินเงินกู้ทั้งในและนอกระบบจำนวนมาก



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า "แอม" ถูกดำเนินคดี 75 ข้อหา แยกเป็นต่างกรรมต่างวาระตามแต่พฤติกรรมในแต่ละคดี เช่น พยายามฆ่าผู้อื่น / ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ / ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นต้น ซึ่งข้อหาที่สั่งฟ้องมีโทษสูงสุดถึง "ประหารชีวิต" และ "แอม" ไม่เข้าข่ายได้ลดโทษเพราะตั้งครรภ์ เนื่องจากแท้งเด็กในครรภ์ไปแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะทยอยส่งสำนวนให้อัยการตั้งแต่วันนี้ (30มิ.ย.)



จากพฤติการณ์ก่อเหตุของ "แอม" สามารถสรุปได้ 3 รูปแบบ คือ

1. ขับรถไปรับผู้ตายจากบ้านเพื่อไปกินข้าวแล้วลอบวางไซยาไนด์ ก่อนจะพาส่งบ้าน แล้วยาออกฤทธิ์ ทำให้เสียชีวิต

2. รับผู้ตายจากบ้านและลอบวางไซยาไนด์เสียชีวิตกลางทาง

3. ส่งแคปซูลยาอ้างเป็นยาลดความอ้วนไปให้ผู้ตายถึงที่บ้าน



ทุกครั้งหลังก่อเหตุจะโทรศัพท์หาเหยื่อ หรือคนใกล้ตัวเหยื่อว่ามีอาการหรือไม่ หากมีอาการแล้วจะตัดการติดต่อทันที และทุำครั้งจะหาทางทำลายข้อมูลในมือถือเหยื่อ เพื่อไม่ให้เชื่อมมาถึงตัวเอง



นอกจากนี้ยังเอาผิดพันตำรวจโท วิฑูรย์ อดีตสามีของแอม และนางสาว ธันย์นิชา ทนายความของแอมฐานช่วยผู้อื่นไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด



หลังพบว่าทั้ง 2 คนช่วยเหลือและให้คำแนะนำเรื่องซ่อนกระเป๋าถือหลุยส์วิคตองของก้อย ที่คอนโดมิเนียมของพยานคนหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/t6pu4UweNmk

คุณอาจสนใจ

Related News