สังคม
เปิดใจแม่เด็กพาลูกขายถั่วต้มดึกดื่น โอดชีวิตไม่เหลือใครแล้ว วอนสังคมเข้าใจ
24 พ.ย. 2565
3.4K views
เปิดใจแม่เด็กตระเวนพาลูกขายถั่วต้มดึกดื่น โอดครอบครัวไม่เหลือแล้ว ต้องเลี้ยงดูลูกเล็กทั้ง 2 คนเพียงลำพัง เมื่อไปขายของจึงต้องพาเด็กไปด้วยเพราะไม่มีคนดูแล หลังเป็นข่าวก็เครียดมาก วอนสังคมเข้าใจ ด้าน พมจ.สงขลา ติดต่อหาแนวทางช่วยเหลือ
จากกรณีผู้ใช้แอฟพลิเคชันติ๊กต็อกคนหนึ่งในโพสต์ภาพเหตุการณ์ขณะชายคนหนึ่งกำลังมีปากเสียงกับผู้หญิงที่พาลูกมาปล่อยให้เดินเร่ขายถั่วอยู่บริเวณปากซอยถนนราษฎร์ยิน ซอย 7/1 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและสถานบันเทิง
เนื่องจากชาวบ้านสงสารเด็กคนนี้ที่ต้องมาเดินเร่ขายถั่วดึก ๆ ดื่น ๆ แทบทุกคืน จึงทนดูไม่ได้ และเข้าสอบถามผู้หญิงคนนี้ว่า เป็นแม่ของเด็กหรือเปล่า ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ตอบแบบมีอารมณ์ว่า เป็นแม่จริง ๆ และที่ต้องพาลูกมาเดินขายถั่วแบบนี้ เพราะเด็กไม่มีพ่อ จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย บางช่วงแม่พยายามขับรถออกไป แต่ชาวบ้านก็อุ้มเด็กลงมา และถึงขึ้นยื้อเด็กกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับแม่ของเด็กที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดยอาศัยอยู่ภายใน ซ.แจ่มแจ้ง ต.ลวนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทราบชื่อ นางศศิมาภรณ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และมีลูก 2 คน คือ อายุ 3 ปี 3 เดือน และ 1 ปี 3 เดือน
นางศศิมาภรณ์ เปิดเผยว่า ในคืนนั้นตนขับรถพาลูกทั้งคู่ไปขายขนม ขายของกินตามปกติ แต่ปรากฏว่าลูกงอแงจะกินเฟรนซ์ฟรายด์ชีส แต่ร้านที่ซื้อประจำอยู่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย จึงบอกให้ลูกช่วยขายของก่อน และค่อยแวะซื้อขากลับบ้าน และตนเมื่อเห็นว่า ลูกอยากกินอะไร ก็พยายามซื้อหาให้กินอยู่แล้ว รวมทั้งตอนนั้นตนก็เห็นลูกค้านั่งอยู่ที่หน้าร้านใกล้กับที่เกิดเหตุ 2 โต๊ะ จึงบอกให้ลูกเดินลงจากรถไปขายขนมตรงนั้นก่อน แล้วขากลับจะได้แวะไปซื้อเฟรนช์ฟรายส์กลับบ้าน
โดยเมื่อลูกชายคนโตเดินลงจากรถแล้วเอาของไปขาย และขากลับมีผู้ชายคนหนึ่งเรียกให้ลูกกลับมาก่อน แต่ลูกไม่กลับ และเริ่มกลัว รวมทั้งมีคนมองเยอะ จึงร้องไห้ออกมา ซึ่งที่ลูกร้องไห้ไม่ใช่เพราะว่า ตนไล่กลับให้ไปขายของอีกรอบแบบที่ปรากฏในข่าวบางสำนัก
และจากนั้นตนก็ได้เรียกให้ลูกกลับมาขึ้นรถ แต่เด็กไม่ยอมเดินกลับมา และยืนยึกยื้อ ส่วนหนึ่งเพราะเด็กเวลาอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็มักจะทำตัวงอแงแบบนี้ ตนจึงโมโห และพูดจาแบบรุนแรงออกไปกับลูก ซึ่งตนยอมรับ และบางคำก็เป็นถ้อยคำรุนแรง เช่น ถ้าไม่ขึ้นรถจะตีให้ตาย ซึ่งแค่พูด แต่ไม่ได้หวังจะทำจริงๆ แค่อยากให้ลูกรีบขึ้นรถกลับบ้านเท่านั้น
จากนั้นลูกค้าและคนที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นก็พากันเดินเข้ามา และมีการโต้เถียง และฉุดกระชากกันขึ้นตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว
นางศศิมาภรณ์ กล่าวด้วยว่า ปกติจะตระเวนขายของกิน ผลไม้ และถั่วต้ม โดยปกติตนกับลูกก็จะเดินไปขายด้วยกัน แต่ถ้าหากลูกคนเล็กร้องหรืองอแง ตนก็จะให้ลูกคนโตเดินไปขาย แต่เดินแค่ใกล้ๆ และขายแค่ถั่วต้มเท่านั้น
นอกจากนี้ตนยังประสบอุบัติเหตุรถชนเจ็บขาต้องหยุดพักไปประมาณ 20 วัน และเพิ่งกลับมาตระเวนขายของได้ราววันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา
และหลังจากที่มีกระแสโซเชียลเรื่องนี้ถาโถมเข้ามา ตนรู้สึกเครียดมาก แต่ละช่องทาง แต่ละคอมเม้นท์ เหมือนกับรุมประณาม รุมด่าตนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงคลิปที่ถูกแชร์ออกไปก็มาจากมุมมองของเจ้าของคลิปแค่เท่านั้น และบางอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลก็ไม่ได้ปรากฏอยู่ในคลิป และตนก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย
เเม่ของเด็กกล่าวด้วยว่า วานนี้หลังเรื่องราวของตนปรากฏเป็นข่าวดังก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนเลย ซึ่งตอนนี้ทำมาหากินลำบาก ของก็ขายไม่ค่อยจะได้ ไม่มีเงินใช้จ่าย และตนก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะ ที่มีอยู่ทั้งพ่อและแฟนก็ได้เสียชีวิตกันไปหมดแล้ว โดยพ่อเพิ่งเสียไปเมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ตนจึงต้องเลี้ยงดูลูกอยู่เพียงลำพังคนเดียว โดยไม่ได้ขอรบกวนอะไรจากใครเลย
และเมื่อจะต้องออกไปทำมาหากินตระเวนขายของ ก็จำเป็นที่จะต้องพาลูกทั้ง 2 คน ติดรถจักรยานยนต์ไปด้วย เพราะ ไม่มีใครช่วยดู และเด็กยังเล็กปล่อยทิ้งให้อยู่บ้านเพียงลำพังไม่ได้ จึงอยากอธิบาย และวอนให้สังคมเข้าใจตนด้วย โดยตนต้องทำงานและต้องเลี้ยงลูกไปด้วย บางครั้งตอนที่พากันเดินไปขายของ ก็โดนลูกค้าบางคนต่อว่าอยู่เป็นประจำว่า เอาลูกมาหากิน และตนก็ได้แต่ตอบพวกเค้าไปว่า ตนไม่เหลือใคร ก็ต้องเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว
ทั้งนี้ยังทราบว่า ทาง พมจ.สงขลา ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆ ของครอบครัวนี้ในเบื้องต้นแล้ว โดยจะหาแนวทางที่พอจะให้การช่วยเหลือ รวมทั้งอาชีพที่จะสามารถทำให้แม่สามารถเลี้ยงดูลูกไปด้วยได้ ซึ่งจะมีการนัดหมายเข้าพบอีกครั้ง
แท็กที่เกี่ยวข้อง สงขลา ,เด็กขายถั่วต้ม ,ดรามาเด็กขายของ