อาชญากรรม
สุดทน! เพื่อนบ้านแอบจับปลาในบ่อ ขโมยของในสวนนาน 19 ปี คว้ามีดพร้าฟันเลือดอาบ
23 พ.ย. 2565
132 views
จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ 22 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 20.40 น. นายเอกพงษ์ หรือเริญ อายุ 61 ปี อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และอดีตประธานสหกรณ์การเกษตรได้ก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันนางฉะอ้อน อายุ 64 ปี ได้รับบาดเจ็บ และมีบาดแผลบริเวณศีรษะจำนวน 2 แห่ง
เหตุเกิดภายในสวนปาล์มน้ำมันของผู้ก่อเหตุ ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน ปมเหตุมาจากผู้บาดเจ็บเข้าไปหาปลาและหอยภายในที่ดินของผู้ก่อเหตุ ที่ผู้ก่อเหตุเลี้ยงไว้ และยังได้มีการข่มขู่ว่าจะยิงและฆ่าผู้บาดเจ็บยกครอบครัว
ความคืบหน้าวันนี้ 23 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านของผู้บาดเจ็บและสวนปาล์มน้ำมันของผู้ก่อเหตุอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนกัน โดยมีป้ายระบุไว้จำนวนหลายจุดภายในสวนว่า “ห้ามเข้า-ห้ามจับปลา ฝ่าฝืนเอาผิดตามกฎหมายทันที” ก่อนจะได้พบกับ นายเอกพงษ์ หรือเริญ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้นำอาวุธมีดพร้า ที่ใช้ก่อเหตุ ตั้งเก็บไว้ในท้ายรถยนต์เก๋งมาให้ดู ก่อนจะพาผู้สื่อข่าวลงไปดูในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ่อปลา อยู่หลังขนำไม้ภายในสวน และยังชี้ให้ดูสวิงตักปลาของผู้บาดเจ็บยังตั้งอยู่ภายในสวน
โดยนายเอกพงษ์ เล่าเหตุการณ์ว่า ปกติตนจะไม่ค่อยนอนที่สวน แต่ช่วงหลังมีปลาที่เลี้ยงไว้หายบ่อย ทำให้เมื่อคืนจึงมานอนเฝ้าดูที่ขนำ ทำให้พบว่ามีคนเดินอยู่ ซึ่งใช้ไฟฉายคาดอยู่ศีรษะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงได้ถืออาวุธมีดพร้าลงไปดู กลับพบว่าผู้บาดเจ็บยืนอยู่ในบ่อปลาของตน จึงถามไปว่ามาทำอะไร ผู้บาดเจ็บตอบมาว่ามาตกปลา
ตนจึงเกิดความโมโห เนื่องจากเป็นปลาที่เลี้ยงในที่ของตัวเอง ไม่ใช่ที่สาธารณะ จึงมีปากเสียง และเกิดบันดาลโทสะ ใช้สันมีดพร้าที่ถืออยู่ เคาะเข้าไปที่ศีรษะ จำนวน 3 ครั้ง เพื่อตักเตือน แต่ไม่ได้ฟัน ถ้าฟันก็คงตายไปแล้ว ผู้บาดเจ็บก็วิ่งกลับไปบ้าน
ส่วนตนก็ได้ขับรถออกกลับบ้านอีกหลังที่พักอยู่ประจำ ในพื้นที่ อ.ย่านตาขาวไป และที่มีการกล่าวหาว่าตนเดินถือมีดตามไปข่มขู่จะฆ่ายกครัวถึงหน้าบ้านผู้บาดเจ็บ ส่วนนี้ไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ตามไปข่มขู่แบบนั้น รวมทั้งไม่ได้มีนเมาด้วยเช่นกัน
นายเอกพงษ์ เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาผู้บาดเจ็บเข้าไปขโมยปลาและหอยที่เลี้ยงไว้ในสวนของตนหลายครั้งมากแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 อยู่บ่อยครั้ง และหากินอยู่ในสวนของตนมาตลอด ตนก็ตักเตือนมาตลอด ว่าห้ามเข้า หากเข้าก็อย่าขโมยปลา และได้มีการติดป้ายเตือนด้วยซ้ำ คนทั้งหมู่บ้านรู้ดีว่าผู้บาดเจ็บเป็นคนชอบลักขโมย และตนรู้มาตลอดว่าปลาหายไปเท่าไร เพราะให้อาหารอยู่ทุกวัน หลังจากเกิดเหตุตนก็ไม่ได้หลบหนี หากตำรวจเรียกไปพบก็ยินดี เนื่องจากที่ก่อเหตุเป็นการดูแลทรัพย์สินของตัวเอง
ในเวลาเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อปลาจุดเกิดภายในสวนประมาณ 200 เมตร พบกับนายวัชรศักดิ์ อายุ 45 ปี ลูกชายผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะนี้แม่ยังอาการสาหัส นิ้วหัวแม่มือซ้ายเกือบขาด และได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ กะโหลกร้าว และสมองบวม ซึ่งแพทย์ได้รักษาและทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
ก่อนเกิดเหตุยอมรับว่าแม่เข้าไปในสวนของเขาจริง โดยที่ตั้งใจว่าจะไปหาปลาในลำคลองสาธารณะที่อยู่หลังสวนของผู้ก่อเหตุ แต่ตอนเดินผ่านเข้าไปบริเวณหลังขนำ ยังไม่ทันได้ถึงบ่อปลา ได้ตะโกนเรียกชื่อเจ้าของสวนแล้ว และเจ้าของสวนก็ตอบกลับมาแล้ว เพราะเป็นคนรู้จักบ้านใกล้เรือนเคียงกันมาตั้งแต่อดีต ทันใดนั้นผู้ก่อเหตุซึ่งดักรออยู่แล้วได้ใช้มีดพร้าฟันทันที โดยที่ไม่ได้พูดคุย และแม่ยังไม่ได้ไปหาปลาด้วยซ้ำ แต่เขากลับมากระทำเช่นนี้
นายวัชรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหาระหองระแหงและมีปากเสียงกันมาบ่อยครั้ง ในเรื่องที่แม่เข้าไปในสวน ตอนนี้หวาดกลัวเป็นอย่างมาก กลัวว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตราย เนื่องจากผู้ก่อเหตุชอบดื่มสุรามึนเมาบ่อยครั้ง เพราะเขาได้เดินตามมาข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตายยกครัว
เบื้องต้น ที่ สภ.บ้านหนองเอื้อง ร.ต.อ.พิชิต หนูส่ง รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้มีการลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน และได้ทำการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปกับทางผู้ก่อนเหตุ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาแล้ว แต่ยังคงต้องรอสอบผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ยังคงให้การไม่ได้ พร้อมทั้งจะทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุตามกฏหมายต่อไป และส่วนเรื่องที่มีการบุกรุกก็ต้องว่ากันไปอีกคดีหากเจ้าของสวนมีการเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม
แท็กที่เกี่ยวข้อง ขโมยของ ,ฟันเพื่อนบ้าน ,ทำร้ายร่างกาย ,แอบจับปลา