‘ชูวิทย์’ แฉปม ‘แตงโม’ นักการเมือง ช. คอยแนะคนบนเรือ เชื่อมีการเบี่ยงความผิด

สังคม

‘ชูวิทย์’ แฉปม ‘แตงโม’ นักการเมือง ช. คอยแนะคนบนเรือ เชื่อมีการเบี่ยงความผิด

7 มี.ค. 2565

3.4K views

“ชูวิทย์” แฉแหลก!! เปิดชื่อนักการเมืองตัวย่อ ช.ช้าง ให้คำแนะนำ “5 คนบนเรือ” เชื่อแค่เบี่ยงความผิด ยังคงเป็นอุบัติเหตุ


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดบ้านแถลงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีการที่ดาราสาว “แตงโม” ตกแม่น้ำเจ้าพระยาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ว่า ส่วนตัวอยากให้บุคคลทั้งห้าที่อยู่บนเรือร่วมกับดาราสาวออกมาพูดความจริงเพราะขณะนี้จากข้อมูลที่ตนเองทราบ มีการโกหกขึ้นโดยจุดประสงค์เพื่อเบี่ยงเบนความผิดที่เกิดขึ้น เพราะหากมีการโกหกตั้งแต่ขั้นตอนแรกจะต้องโกหกให้ทุกขั้นตอนหรือโกหกต่อไปเรื่อยเรื่อยซึ่งในคดีนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งคนอาจทำให้การโกหกเป็นไปด้วยความลำบาก



นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่าจากข้อมูลตนเองทราบว่า กลุ่มคนที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน หลังเกิดเหตุได้มีการโทรประสานไปยังนักการเมืองคนหนึ่งที่มีอักษรย่อ ช. เพื่อขอความช่วยเหลือรวมถึงคำแนะนำ จนต่อมากลายเป็นการให้ทุกคนที่อยู่บนเรือให้การไปในทิศทางเดียวกันว่าดาราสาวออกไปทำธุระส่วนตัวที่ท้ายเรือก่อนเสียหลักตกน้ำไปเสียชีวิต ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะผู้หญิงควรจะต้องอายกับการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้น บนเรือที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่และเรือล่องอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถจอดเทียบถ้าตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น ร้านอาหารบ้านคนหรือวัด



ซึ่ง 1 ใน 5 คน ที่อยู่บนเรือตนเองรู้จักเมื่อ 10 ปี ก่อน ขณะนั้นที่ยังเปิดรถมือสองอยู่ที่ย่านพัฒนาการ ก่อนที่ต่อมาจะรู้จักกับวงการเล่นรถหรูอักษรย่อ ผ. และมีการแนะนำกันต่อๆ มาจนมารู้จักกับนักการเมืองอักษรย่อ ช. คนนี้ ที่มีลักษณะนิสัยชอบเล่นรถหรูขับรถหรูไปสภาบ่อยครั้ง ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ประชาชนและสื่อมวลชนจะได้รับการแถลงข้อมูลคดีในอีก 1-2 วัน ต่อจากนี้จะถามตำรวจ ซึ่งทิศทางที่คาดว่าจะมีการแถลงต่อสื่อมวลชนและประชาชนก็คืออุบัติเหตุ



ตนเองยืนยันว่าหากทั้ง 5 คน ที่อยู่บนเรือมีการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาในคดีลักษณะแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีทนายความ อย่างเช่น คดีเสี่ยเบนซ์ก็จบลงด้วยดีไม่ยืดเยื้อ เพียงแต่ตอนนี้เกิดการโกหกร่วมกันโกหก ทำให้มีการเบี่ยง ประเด็นของการเกิดอุบัติเหตุเพื่อปกปิดความผิดบางอย่าง ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องขวดไวน์ที่มีการเจอเพียงขวดเดียวตนเองยืนยันจากประสบการณ์ว่าขวดไวน์หนึ่งขวดสามารถรินได้มากสุด 7 แก้ว ซึ่งคนบนเรือมีอยู่กัน 6 คน เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเพียงขวดเดียว



ประเด็นเรื่องเมาแล้วขับเรือ อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผู้กระทำผิดต้องการเบี่ยงเบนประเด็น นายชูวิทย์ยังมีการวาด วงล้อวัฏจักร ของกลุ่มไฮโซคือมีรถหรู เรือเร็ว เหล้าไวน์ ยา นักการเมือง โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า ทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวข้องกับวัฏจักรนี้  อีกทั้งตนเองยังทราบว่า หนึ่งในผู้ที่อยู่บนเรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยา ซึ่งตนเองตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่มีการหายไปสองวันก่อนจะเข้าพบตำรวจ การหายตัวไปลักษณะแบบนี้ตนเองมองได้เพียงว่า เป็นการจงใจปกปิดการตรวจสอบบางอย่างหรือไม่



ส่วนนี้เชื่อว่าตำรวจต้องมีการตรวจสอบ แต่จะสามารถตรวจสอบเจอหรือไม่อันนี้ตนเองไม่สามารถตอบได้ พร้อมกันนี้นายชูวิทย์ยังฝากถึงนักสืบโซเชียล ต่างๆ ว่า อย่าหยิบยกประเด็นที่อาจทำให้ตัวผู้เสียชีวิตเสื่อมเสียมาพูดอาทิ เช่น เด็กเอ็นท์ หรือประเด็นที่มีการล่องเรือเพื่อเตรียมพาไปพบผู้ใหญ่ที่มีการนอนรออยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตนเองพูดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าไม่มีผู้ใหญ่คนไหนจะมารอเด็กแบบนี้ เพราะเรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นจริงจะมีการทำกันเงียบๆ และรวดเร็ว ไม่มีการรอเพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกพบเห็นจากผู้อื่น รวมถึงเรื่องแบบนี้ทั้งสองฝ่ายต้องเกิดจากความสมัครใจไม่ใช่การบังคับเพราะจะมีปัญหาตามหลังมาได้



ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงว่ามีนายตำรวจ ระดับพล ตำรวจตรีออกมาขายข้อมูลให้กับทางผู้ก่อเหตุตนเองไม่เชื่อว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เป็นที่สนใจของประชาชนลักษณะแบบนี้มีสื่อเกาะติดและนำเสนอเรื่องราวอยู่ทุกวัน ตำรวจไม่มีใครอยากเอาตัวเองมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ทุกคนต้องระวังตัว ส่วนประเด็นที่แม่ของดาราสาวออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องเงินเยียวยาตนเองมองว่าเป็น สิทธิ์ที่คุณแม่สามารถทำได้ส่วนจะมีใครเป็นคนอธิบายหรือแนะนำ คุณแม่หรือไม่ตนเอง ตอบได้เพียงว่าเป็นตนเองก็จะแนะนำแบบนี้เพราะเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ตามกฏหมายและที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการออกมาพูดในช่วงนี้ ตนเองมองว่าเพราะเป็นข่าวที่กระแสสังคมยังให้ความสนใจหากทิ้งไว้และมาพูดให้ทีหลังอาจไปรับความสนใจจากสื่อหรือประชาชน และสุดท้ายเรื่องก็จะเงียบลงไม่มีใครสนใจ



สุดท้ายนายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า หากกลุ่มคนในเรือทั้งห้ามาปรึกษาตนเองตั้งแต่แรก ตนเองก็จะให้คำแนะนำเพียงว่าพูดความจริงทั้งหมดโดยไม่ต้องปกปิดหรือเบี่ยงประเด็นไปประเด็นอื่น เพราะคดีแบบนี้สามารถจบลงได้โดยดีไม่จำเป็นต้องมีการปรึกษาทนาย เพราะการปรึกษาทนายอาจมาจากสาเหตุของการต้องการปกปิดและต่อสู้คดี ทั้งนี้ยังยืนยันอีกว่าตนเองเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ได้ต้องการอยากดังเพราะเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องออกมาเปิดโรงน้ำแข็งหรือการให้ข่าวแบบปั่นน้ำเป็นตัวแบบที่หลายหลายคนกำลังทำอยู่ตอนนี้ พร้อมขอสื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่จงใจปล่อยข่าวลือต่างๆ เพื่อเบี่ยงประเด็นหรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการโยงไปหาบุคคลอื่นเพื่อทำลายชื่อเสียง

คุณอาจสนใจ

Related News