'ผู้นำยูเครน' เรียกร้อง 'รัสเซีย' หันหน้าเจรจา ชี้มาตรการคว่ำบาตรของยุโรปไม่ได้ผล

ต่างประเทศ

'ผู้นำยูเครน' เรียกร้อง 'รัสเซีย' หันหน้าเจรจา ชี้มาตรการคว่ำบาตรของยุโรปไม่ได้ผล

โดย panwilai_c

25 ก.พ. 2565

130 views

เข้าสู่วันที่สองแล้ว ที่รัสเซียเปิดปฎิบัติการทางทหารเข้าโจมตียูเครน และยังมีการโจมตีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องรัสเซียให้เปิดโต๊ะเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ ขณะที่นานาชาติประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่กับรัสเซีย



คำแถลงของผู้นำยูเครน มีขึ้นหลังจากที่กองกำลังทหารรัสเซียรุกคืบเข้าพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ เมื่อช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งคำแถลงได้เรียกร้องให้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดโต๊ะเจรจากับยูเครน เพื่อยุติการสู้รบ



โดยระบุว่า การสู้รบเกิดขึ้นทุกพื้นที่ทั่วยูเครน ขอให้มานั่งเจรจากันเพื่อหยุดการเสียชีวิตของผู้คน และในเวลาต่อมา โฆษกทำเนียบเครมลิน ก็ออกมาตอบรับ และระบุว่า พร้อมเปิดการเจรจา ที่กรุงมินสค์ เมืองของหลวงเบราลุส โดยมีเงื่อนไขว่า ยูเครนจะต้องประกาศสถานะเป็นกลาง ซึ่งรวมไปถึงการปลอดทหารด้วย



อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีสัญญาณใดๆว่า ทางประธานาธิบดีเซเลนสกี้จะตกลงเจรจาภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่



ขณะเดียวกัน ก็มีแหล่งข่าวบางกระแสระบุว่า รัสเซียส่งตัวแทนไปกรุงมินสค์แล้ว เพื่อเจรจากับยูเครน ก่อนหน้านี้ เซเลนสกี้ ได้ตำหนิผู้นำยุโรป ที่ไม่มีมาตรการที่เด็ดขาดมากกว่านี้ และว่า มาตรการคว่ำบาตรของยุโรปต่อรัสเซียในขณะนี้ ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ต่างจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยุโรปไม่ทำอะไรเลยที่จะหยุดยั้งสงคราม



ส่วนความคืบหน้าการโจมตียูเครนวันที่ 2 ของรัสเซีย มีรายงานว่า ทหารรัสเซียรุกคืบเข้าพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟแล้ว โดยทหารรัสเซีย อ้างว่า ได้เข้ายึดสนามบินทหาร ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ อยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียง 7 กิโลเมตร



นับจากที่มีการโจมตีตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้ ตอนนี้ชาวยูเครนกว่า 1 แสนคนไหลทะลักไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยวันนี้มีรายงานว่า มีทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชรา ที่แห่อพยพออกไปยังฮังการี่และสโลวะเกีย หลายคนต้องรอบริเวณจุดผ่านแดนนานหลายชั่วโมง



ขณะที่ปฏิกิริยาจากนานาชาติ ล่าสุด ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ของจีนได้โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีปูติน พร้อมกับย้ำว่า จีนสนับสนุนให้รัสเซียกับยูเครนหันมาเจรจากัน เพื่อยุติวิกฤตการณ์ในครั้งนี้



ส่วนหลายประเทศเช่น ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ไต้หวัน ร่วมรุมประณาม และ ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่สหภาพยุโรป ซึ่งจัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ได้ลงมติใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจชุดใหญ่กับรัสเซีย โดยจะตัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำคัญของรัสเซีย รวมไปถึงการควบคุมการส่งออกไปยังรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตน้ำมัน ที่ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์จากสหภาพยุโรป



นอกจากนี้ ชุมชนชาวรัสเซียในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ออสเตรเลีย , กรุงวอชิงตัน ดีซี , นครซาน ฟรานซิสโก้ และอีกหลายรัฐในสหรัฐฯ รวมทั้ง บราซิล และ หลายประเทศในยุโรป ได้ออกมารวมตัวกันประณามรัสเซีย และ แสดงจุดยืนที่จะยืนเคียงข้างชาวยูเครน



ที่รัสเซียเอง มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้าน การบุกยูเครนของประธานาธิบดีปูติน โดยเฉพาะที่ กรุงมอสโก และ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีรายงานผู้ชุมนุมประท้วงถูกตำรวจจับกุม ไปราว 1 พัน 400 คน



ส่วนประเทศไทย นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้มีถ้อยแถลง ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ต่อสถานการณ์ในยูเครน โดยไทย สนับสนุนการหาทางออกอย่างสันติผ่านการเจรจา ตามกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ พร้อมสนับสนุนข้อเรียกร้องของเลขาธิการสหประชาชาติในการ ระงับข้อพิพาทในรูปแบบต่างๆเพื่อลดความตึงเครียด



นอกจากนี้ นายเจน นำชัยศิริ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ยูเครน อ่านแถลงการณ์ระบุว่ากลุ่มมิตรภาพสมาชิกสภาไทย-ยูเครน ได้ติดตามพัฒนาการในยูเครน โดยเฉพาะการทวีความตึงเครียดในยุโรปด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกลุ่มมิตรภาพฯ สนับสนุนความพยายามที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติ ผ่านการหารือ และห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชน



ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดในเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ราคาทองคำผันผวน จนเกิดการเก็งกำไร จากราคาที่ปรับขึ้น-ลง อย่างร้อนแรง ซึ่ง นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่แนวรับ 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านอยู่ที่ 1,950 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ คิดเป็นเงินบาทก็อยู่ที่ประมาณ 29,000-30,000 บาท ต่อบาททองคำ ซึ่งสะท้อนว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่นักลงทุนให้ความสนใจ



อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ ราคาทองคำเกิดแรงเทขายต่อเนื่อง หลังจากนาโตยืนยันจะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของความตึงเครียดในเหตุการณ์ที่นักลงทุนจับตามอง

คุณอาจสนใจ

Related News