ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์หัวขโมยเป็นชาย สวมเสื้อลายสก๊อตแขนยาวสีขาว ใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ได้งัดบ้านเข้ามาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินอย่างใจเย็น พร้อมเขียนข้อความระบุว่า

โจรเข้าบ้าน เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ในเขตพื้นที่ตำบลหนองกร่าง อำเภอบ่อพลอย เขตรับผิดของสถานีตำรวจภูธรหนองรี แม้กล้องวงจรปิดจะจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจนและเวลาจะผ่านล่วงเลยมานานกว่าเดือนครึ่ง แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ได้แต่รอผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย

ซึ่งจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เป็นบ้านของผู้เสียหาย และได้พูดคุยกับ นายมานพ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ภายในคลิปวิดีโอดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เวล่าประมาณ 09.40 น. โดยในวันเกิดเหตุ ที่บ้านของตนไม่มีคนอยู่ เนื่องจากตนเองและลูกออกไปทำไร่ ขณะที่ภรรยาซึ่งปกติจะอยู่เฝ้าบ้านก็เดินทางไปร่วมงานบวชของคนในหมู่บ้าน

คนร้ายรายนี้ได้งัดหน้าต่างข้างบ้านเข้ามา ก่อนจะมาเปิดประตูห้องนอนของตนและห้องนอนของภรรยาเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ได้ปืนไป 1 กระบอก พร้อมเงินสดอีกมากกว่า 1 แสนบาท หลังเกิดเหตุ ตนได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองรี แต่จนถึงปัจจุบัน ทางตำรวจก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีได้

ซึ่งโดยส่วนตัว เชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะทราบความเคลื่อนไหว ของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี เนื่องจากตามปกติ บ้านของตนจะมีคนอยู่เฝ้าบ้านเป็นประจำ แต่ในวันเกิดเหตุ คนร้ายทราบดีว่าไม่มีคนอยู่บ้านจึงเข้ามาก่อเหตุอย่างใจเย็น แถมยังสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไม่ให้กล้องวงจรปิด จับภาพใบหน้าเอาไว้ได้ ซึ่งนอกจากบ้านของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายรายนี้เข้ามาก่อเหตุแล้ว ทางผู้สื่อข่าวยังได้รับข้อมูลว่า คนร้ายซึ่งมีลักษณะเหมือนกับในคลิปวิดีโอดังกล่าว เคยไปก่อเหตุกับบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองกร่างอีกหลายหลัง

อย่างเช่นที่บ้านของนางสิราวรรณ อายุ 62 ปี ซึ่งก็ถูกคนร้าย ใส่เสื้อลายสก๊อตสีขาวสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ลักษณะคล้ายกับคนร้ายในคลิปดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุเช่นเดียวกัน โดยครั้งนี้ กล้องวงจรปิดภายในบ้านสามารถจับภาพคนร้าย ที่งัดหน้าต่างด้านข้างบ้านเข้ามาก่อเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจากลักษณะท่าทางการเดิน รวมถึงลักษณะการแต่งกายของคนร้ายมีความคล้ายคลึงกับคนร้ายที่ก่อเหตุกับบ้านของนายมานพเป็นอย่างมาก

อีกทั้งช่วงเวลาการเกิดเหตุก็เกิดห่างกันไม่ถึงเดือนและบ้านทั้งสองหลัง อยู่ในตำบลหนองกร่างเหมือนกัน ห่างกันไม่ถึง 5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองกร่าง ต่างรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 

ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรหนองรี เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการติดตามตัว หัวขโมยแสบรายนี้ โดยพันตำรวจเอกสมมาตร จันทรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองรี กล่าวว่า คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งสองเหตุการณ์

พบว่าจากเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ รวมถึงความสูงและลักษณะท่าทางการเดิน เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นรายเดียวกัน นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า การติดตามตัวคนร้ายรายนี้ค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากคนร้าย แต่งตัวรัดกุม ใส่เสื้อแขนยาวและสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ทำให้ไม่สามารถสังเกตตำหนิรูปพรรณต่าง ๆ ได้

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่เกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะดีเอ็นเอของคนร้ายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ได้มีการนำตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ก่อเหตุมาทำการตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับ DNA ของคนร้ายที่เจ้าหน้าที่พบในจุดเกิดเหตุ

ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจพิสูจน์ DNA ซึ่งมีขั้นตอนและต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ หากผลตรวจออกมาแล้ว ตรงกับตัวอย่าง DNA ของผู้ต้องสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน

แต่หากผลตรวจดีเอ็นเอไม่ตรง ก็จะต้องขยายผลไปตรวจสอบยังผู้ต้องสงสัยรายอื่นที่อยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทั้งนี้ ขอให้ ประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองกร่าง และพื้นที่ใกล้เคียง มั่นใจได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลย และยังคงทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว