เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ธ.ค.ที่ EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) คลินิกเสริมความงามของ น.ส.พิมรดาภรณ์เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าและยูทูบเบอร์ชื่อดัง สาขาห้วยขวาง ซอยประชาสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้าตรวจสอบมาตรฐานและการดำเนินกิจการของคลินิก เอกสารทางการแพทย์ เวชระเบียน และบันทึกถ้อยคำจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ภายหลังเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. พิมรี่พาย ได้แจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์ใช้ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ปลอม มาสมัครและทำงาน โดยสวมรอยแพทย์ตัวจริงที่อยู่ต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้เข้าไปด้านในคลินิก โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพเนื่องจากทางคลินิกไม่อนุญาต โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านในแล้ว ก็ได้ปิดผ้าม่านหน้าคลินิก และติดป้าย “ปิดบริการ” ขณะที่ลูกค้าที่ซื้อคอร์สไว้ ต่างทยอยมาใช้บริการ แต่ก็พบว่าคลินิกปิดจึงเดินทางกลับ

โดยนายชาตรี พินใย รองผู้อำนวยการกองกฎหมายจาก กรม สบส. เผยกับผู้สื่อข่าวก่อนจะเข้าไปตรวจสอบด้านในคลินิก ระบุว่า นายแพทย์ ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส.ได้สั่งการให้กองกฎหมาย สบส.เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีนี้ เบื้องต้นพบแพทย์ของคลินิก และได้ตรวจสอบสถานประกอบการ อุปกรณ์ต่างๆ พบว่าถูกกฎหมายทั้งหมด

มีเพียงบางส่วนที่ไม่ถูกต้อง คือการโฆษณารูปว่ามีห้องผ่าตัด แต่เมื่อเข้ามาตรวจสอบพบว่า ไม่มีห้องผ่าตัดอยู่ภายในจึงต้องดำเนินคดีในส่วนนี้ ซึ่งโทษสูงสุดคือการปรับสถานเดียว หากเป็นนิติบุคคลขั้นต่ำปรับ 50,000 บาท และสั่งปรับปรุงแก้ไข

ส่วนเรื่องหมอเถื่อนเป็นหน้าที่ของ บก.ปคบ.ที่จะดำเนินคดี ส่วน สบส.จะตรวจสอบรายละเอียดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ว่าคลินิกมีส่วนรู้เห็นในการรับหมอเถื่อนเข้ามาหรือไม่ และต้องดูว่าช่วงที่หมอเถื่อนมา ใครมีส่วนรู้เห็นบ้างรักษาใครไปแล้วบ้าง ซึ่งนั่นจะเป็นผู้เสียหายทั้งหมด

หลังจากตรวจสอบเสร็จทางกรม สบส. ออกมาเปิดเผยว่า หมอเถื่อนรายดังกล่าวมาเริ่มให้บริการฉีดสารเสริมความงาม (ฟิลเลอร์/โบท๊อกซ์) ที่อิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง ในวันที่ 12-14 ธันวาคม 2564 โดยมีผู้รับบริการจำนวน 12 ราย  ก่อนที่ทางคลินิกจะสืบทราบทำให้ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไป

ทาง สบส.เผยว่า จากการตรวจสอบยังพบความผิดในด้านอื่น ๆ เช่น คลินิกมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยโดยไม่ได้รับอนุญาต การโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และการไม่แจ้งรายชื่อของแพทย์ผู้ให้บริการกับผู้อนุญาต ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้าน แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า พิมรี่พายบางครั้งเพื่อนจะขายทุกอย่างไม่ได้...

1 ยาและเวชภัณฑ์ทุกอย่างไม่เหมือนขนม ไม่เหมือนน้ำหอมมันต้องมีมาตรฐาน

2 หมอถ้าเป็นหมอปลอมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าทุกคนครูพักลักจำมาได้ หมอต้อง สอบเข้าโคตรยากคะแนนสูงมาก และยังต้องเรียนหมอเป็น 6 ปีมั้ย เฉพาะทางอีกกี่ปี....ถามก่อน สภาพพพ

ต่อมาคุณหมอของขวัญ ได้ไลฟ์เตือนพิมรี่พายว่า แยกเป็น 2 ประเด็น กรณีหมอปลอม และกรณีการใช้ฟิลเลอร์ที่ราคาถูกมาก โดยที่ออกมาพูดไม่ได้จะตำหนิหรือว่าใดๆ แต่จะเตือนในฐานที่ทำคลินิกมาก่อน และมีประสบการณ์ด้านนี้ และก็เป็นเอฟซีของคุณพิมรี่พายด้วย

โดยประเด็นแรก การที่พิมรี่พายบอกว่าไม่รู้ว่าหมอที่สมัครเป็นหมอปลอมเขาถูกหลอก หมอก็อยากถามว่า คุณไม่ส่งประกันสังคมเหรอ แล้วที่บอกว่า เขาใส่แมสก์มาแล้วหน้าเหมือนในเอกสารมาก ไม่เข้าใจว่าคุณพิมรี่พายไม่ได้ตรวจสอบส่วนนี้ ควรจะให้คนที่มีประสบการณ์ทำคลินิกมาดูแล ถ้าคิดจะเปิดคลินิก ต้องมีที่ปรึกษาด้านการแพทย์ และตนยินดีที่จะให้คำปรึกษา และเข้าใจทางการแพทย์ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร ดังนั้น จะดูแค่นี้ไม่ได้ แต่หมอเชื่อว่า คุณพิมรี่พายไม่ได้ตั้งใจ และพร้อมรับผิดชอบ และยังโชคดีที่หมอที่แอบอ้างคนนี้ไปทำหน้าของลูกค้าและยังไม่เกิดผลกระทบ แต่ถ้ามันเกิดผลกระทบมา เจ้าของคลินิก และหมอคนนั้นต้องรับผิดชอบ

กรณีของฟิลเลอร์ ราคาที่พิมรี่พาย ขายถูกมาก โปร 5,000 บาท 100 ยู เมโสแฟต 20 ซีซี ฟิลเลอร์ 2 หลอด ราคา 5,000 บาท ถ้าเป็นของแท้ทั้งหมด หมอของขวัญขอซื้อเลย ถ้ามันถูก อย. ได้มาตราฐาน เพราะถูกมาก การที่ไม่ซื้อตรงต่อบริษัทแม่ ไม่รู้ว่าซื้อจากใคร เลขที่จดแจ้งตรงหรือไม่ หากมีการนำไปฉีดลูกค้าแล้วเกิดปัญหา ปากเบี้ยวหรือได้รับอันตราย จะเสียใจไปตลอด ที่ออกมาพูด เพราะรักพิมรี่พาย แม้ว่าการออกมาพูด จะโดนทัวร์ลง และไม่ได้ต้องการจะแซะ หรือให้ร้ายใดๆ ที่เตือนเพราะรัก และหวังดี และถ้าทัวร์จะลงจริงๆ ก็พร้อมยอมรับ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/NYJOvY5wbRM