วานนี้ (2 ต.ค.) ตำรวจ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุตคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปจี้ชิงเงินภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น หมู่ 4 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง ก่อนจะจุดเผาร้านและหลบหนีออกไป หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้าระงับเหตุพร้อมสายตรวจและชุดสืบสวน

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงระดมรถดับเพลิงใช้เวลาราว 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินภายในร้านถูกเพลิงไหม้เสียหายไปเกือบทั้งหมด ทั้งคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ระบบกล้องวงจรปิด และสินค้าอื่น ๆ

พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ วงศ์อุทัย รักษาการผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่แตง ระบุว่า จากการสอบปากคำพนักงานร้านสะดวกซื้อได้ข้อมูลว่า ช่วงเกิดเหตุมีพนักงานหญิงอยู่ในร้านจำนวน 2 คน คนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขี่จักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน เดินตรงเข้ามาในร้าน

ก่อนจะชักมีดยาวออกมาข่มขู่ให้พนักงานเข้าไปอยู่ในห้องเก็บของหลังร้าน จังหวะนั้นคนร้ายได้ค้นเอาเงินในลิ้นชักโต๊ะได้ไปประมาณ 1,000 กว่าบาท แล้วใช้น้ำมันที่เตรียมมาราดลงบนเคาท์เตอร์ชำระเงินและจุดไฟเผาจนเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ โดย ขณะที่คนร้ายกำลังเผลอพนักงานวิ่งหนีออกมาทางหน้าร้าน พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่คนร้ายจะขี่จักรยานยนต์หลบหนีออกไป

โดยคนร้ายรายนี้พกน้ำมันมา คาดว่าตั้งใจจะเผาคอมพิวเตอร์เพื่อหวังทำลายหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดจนลุกลามร้านเสียหายทั้งหมด

ล่าสุด ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดบพบว่าฮาร์ดดิสก์บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไปตรวจสอบและหาทางกู้ภาพคืนอีกครั้ง

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า จากพฤติการณ์ก่อเหตุเชื่อว่าคนร้ายได้เตรียมการมาล่วงหน้า โดยพกน้ำมันเบนซินใส่ขวดพลาสติกและไฟแช็คมาด้วย

จนถึงขณะนี้ชุดสืบสวนพบเบาะแสแล้วบางส่วน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ จะต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานอื่น ๆ มาประกอบให้รอบคอบและเพียงพอให้ศาลออกหมายจับและลงโทษตามกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่พบเบาะแส ชายต้องสงสัยเข้ามาที่ร้านที่เกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน ก่อนที่จะเกิดเหตุ คาดว่าจะเข้ามาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยเรื่องนี้ว่าได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่หาหลักฐานทั้งภาพจากกล้องงวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี และพยานหลักฐานอื่น ๆ คาดว่าจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและขอศาลอนุมัติหมายจับได้และคาดว่าไม่เกินสามวันจะได้ตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/JETuYCElrIA