ศธ.เตรียมให้เด็กกลับเข้าเรียนที่รร. พร้อมเปิดแผนฉีดวัคซีน mRNA รับเปิดเทอม ภาคเรียนที่ 2

เลือกตั้งและการเมือง

ศธ.เตรียมให้เด็กกลับเข้าเรียนที่รร. พร้อมเปิดแผนฉีดวัคซีน mRNA รับเปิดเทอม ภาคเรียนที่ 2

โดย sujira_s

13 ก.ย. 2564

159 views

กระทรวงศึกษาธิการจับมือกระทรวงสาธารณสุข  เตรียมเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 2 ให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา และการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ โดยต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองให้ฉีดวัคซีน mRNA อย่าง ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา 


วันนี้ (13 ก.ย. 64) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมควบคุมโรค รองอธิบดีกรมอนามัย และนายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว "เตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 สถานศึกษาปลอดภัย เด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า"


โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 กระทรวงศึกษาธิการ จะสร้างความเข้าใจและขอความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 ให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี ชั้นมัธยมศึกษาและ ปวช.กลับมาเรียนที่โรงเรียน แต่เด็กต้องได้รับการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และทั่วโลกยืนยันแล้วว่ามีความปลอดภัย โดยตั้งเป้าหมายจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนตุลาคม ให้เร็วและมากที่สุด เพื่อให้ทันการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายนนี้


สำหรับโรงเรียนที่จะเปิดเรียนนั้น จะนำโครงการ Sandbox Safety Zone in School มาใช้ โดยนำร่องที่โรงเรียนประจำและโรงเรียนเอกชนที่มีความพร้อม จะแบ่งโรงเรียนโซน 3 ระดับ คือระดับที่ 1 ระดับที่ 2 และระดับที่ 3 พร้อมมีแผนเผชิญเหตุ หากพบนักเรียนหรือบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อโควิด 19


นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 เป็นการร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมมือกัน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกการเตรียมการฉีดวัคซีนให้เยาวชน ในช่วงอายุ 12-18 ปี ในส่วนที่ 2 เป็นการเตรียมการ Sandbox Safety Zone in School เป็นโครงการระยะที่ 1 และระยะที่ 2 


โดยระยะที่ 1 จะเน้นโรงเรียนระบบปิด หรือโรงเรียนประจำ พักนอน


ส่วนระยะที่ 2 ในเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะใช้ในโรงเรียนที่เดินทางไป-กลับได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่โซนสีขาวและสีเขียว


นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเปิดเทอม หรือการให้นักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ เป็นนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากแนวโน้มการติดเชื้อในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับวัคซีนที่จะนำมาฉีดในเด็ก 12-18 ปี จะคำนึงถึงปัจจัย 2 ด้าน คือ ประสิทธิภาพของวัคซีน ต้องผ่านการรับรองของ อย. และวัคซีนต้องมีความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ อย.รับรองวัคซีน 2 ยี่ห้อ คือ ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา สำหรับการนำมาฉีดในเด็ก ต้องเป็นไปตามความยินยอมของผู้ปกครอง


ทั้งนี้วัคซีนไฟเซอร์ ที่รัฐบาลจัดหาไว้ 30 ล้านโดส มีกำหนดเข้ามาในประเทศไทยปลายเดือนกันยายนนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดจะเริ่มฉีดได้ในต้นเดือนตุลาคม พร้อมย้ำว่าวัคซีนมีความปลอดภัย

คุณอาจสนใจ

Related News