กฟผ.หนุนจัดตั้งศูนย์พักคอย-รพ.สนาม ทั่วประเทศ พร้อมวางระบบไฟฟ้าและมอบสิ่งของจำเป็น

ประชาสัมพันธ์

กฟผ.หนุนจัดตั้งศูนย์พักคอย-รพ.สนาม ทั่วประเทศ พร้อมวางระบบไฟฟ้าและมอบสิ่งของจำเป็น

โดย panwilai_c

3 ส.ค. 2564

57 views

กฟผ. ร่วมจัดตั้งศูนย์พักคอย และโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมสนับสนุนงานติดตั้งเตียงสนาม วางระบบไฟฟ้า และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ


ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ทั่วประเทศมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลรัฐเกือบทุกแห่งไม่มีเตียงรองรับได้เพียงพอ ทำให้มีผู้ป่วยรอคอยเตียงเพื่อเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก กฟผ. จึงร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอย และโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และในพื้นที่ส่วนภูมิภาค เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว และลดอัตราการเสียชีวิตจากการไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


เบื้องต้น กฟผ. ได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยชุมชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี อาทิ ศูนย์พักคอยชุมชนโรงเรียนเทศบาลปลายบางวัดสุนทรธรรมิการาม และศูนย์พักคอยชุมชนโรงเรียนวัดไทรใหญ่ โดยติดตั้งเตียงกระดาษและเครื่องนอน พร้อมมอบชุดสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น และน้ำดื่ม “น้ำใจ กฟผ.”


และยังร่วมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี ที่ คลังสินค้า 4 สนามบินดอนเมือง ซึ่งรองรับผู้ป่วยได้ 2,000 เตียง พร้อมทั้งมอบสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ อาทิ หมวกป้องกันเชื้อ PAPR สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเจลแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งระดมทีมจิตอาสา กฟผ. เข้าวางระบบไฟฟ้า ประกอบห้องฉุกเฉิน ห้องน้ำ เตียง ช่วยขนส่งสิ่งของ และทำความสะอาด ก่อนส่งมอบให้โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ดูแลผู้ป่วยต่อไป


นอกจากนี้ กฟผ. ยังร่วมจัดตั้งศูนย์พักคอยและโรงพยาบาลสนามในพื้นที่รอบเขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลสนามเขาชนไก่ โรงพยาบาลสนามท่ากระดาน ในพื้นที่รอบเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี โรงพยาบาลสนามธรรมรัศมี ในพื้นที่รอบเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ


กฟผ. และทีมจิตอาสา พร้อมร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อส่งต่อความห่วงใยไปยังพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนกว่าสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 จะคลี่คลาย



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/6lJBwpw5O2s

คุณอาจสนใจ

Related News