กรณีที่รัฐบาลอนุมัติจัดซื้อซิโนแวคเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ล้านโดส วงเงิน 6,100 ล้านบาท ล่าสุดพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกมาคัดค้าน โดยชี้ว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าจัดซื้อดังกล่าว อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ซึ่งระบุไว้ว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"

เพราะขณะนี้มีข้อมูลเท็จจริงทางการแพทย์ว่า วัคซีนซิโนแวค ไม่สามารถ "ป้องกัน" การติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย หรือ เดลตาและสายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นอันตรายต่อชีวิตของประชาชนได้ ขณะที่ข้อมูลและสถิติทางวิชาการด้านสาธารณสุข ชี้ให้เห็นว่า มี วัคซีน mRNA ที่สามารถป้องกันอันตรายต่อประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

ดังนั้นจึงขอให้ทบทวนการสั่งซื้อดังกล่าว ขณะเดียวกันพรรคไทยสร้างไทย จะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อ เพื่อฟ้องร้องรัฐบาล ที่ดำเนินนโยบายแก้สถานการณ์โควิดผิดพลาด ทำให้ประชาชนล้มตาย เศรษฐกิจพังเสียหาย

ซึ่งพูดถึงเรื่องการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ก่อนหน้านี้มีคำชี้แจงจาก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ สมช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ยืนยันว่า การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม เพราะเห็นว่ายังมีประสิทธิภาพอยู่ และยี่ห้ออื่นยังไม่สามารถจัดหาได้ในเวลานี้ ถ้าหากรอวัคซีนชนิดอื่นก็จะไม่มีวัคซีนฉีดให้กับประชาชน

ขณะที่เมื่อวานนี้ เพจเฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความและภาพลำเลียงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดใหม่ส่งถึงไทยแล้ว จำนวน 2 ล้านโดส รวมยอดวัคซีนโควิดที่จีนจัดหาวัคซีนให้กับไทย 15 ชุด รวมทั้งสิ้น 14.5 ล้านโดส

ในช่วงท้าย ยังระบุด้วยว่า "ทางการจีนยินดีสนับสนุนและจัดหาวัคซีนให้แก่ประเทศไทยต่อไป พร้อมจับมือกันต่อสู่กับการแพร่ระบาดและเอาชนะความยากลำบากไปด้วยกัน"

ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า จำนวนวัคซีน 2 ล้านโดสที่ถึงไทยล่าสุดเมื่อวานนี้ ไม่ได้ระบุยี่ห้อ แต่อย่างใด แตกต่างกับทุกครั้งที่จะบอกยี่ห้อวัคซีน