เกาะสมุยตำรวจสืบสวนภาค8 พร้อมกองปราบลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุสระน้ำโรงแรมดังบนเกาะเต่า หลังสองสามีภรรยาเศรษฐีพันล้านจมน้ำเสียชีวิตปริศนา ขณะที่ผลชันสูตร แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุขาดอากาศหายใจ และพบน้ำในปอดจำนวนมาก ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย

กรณีนายรักกีศวร สัจจธรรมกูล อายุ 58 ปี และนางอันชู สัจจธรรมกูล อายะ 55 ปี สองสามีภรรยา สัญชาติไทย เชื้อชาติอินเดีย เจ้าของธุรกิจพันล้าน ที่มีธุรกิจโรงแรมห้าดาวที่ภูเก็ต และโรงงานฉีดพลาสติกที่ระยอง และปราจีนบุรี เสียชีวิตขณะลงเล่นน้ำในสระน้ำโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

โดยลูกชายเป็นผู้มาพบศพ หลังกลับจากที่ไปเดินเล่นที่ชายหาด เบื้องต้นลูกชายไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย แต่ทางญาติได้นำศพกลับกรุงเทพฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

ล่าสุด ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธร ภาค 8 พร้อมตำรวจกองปราบปราม ลงพื้นที่โรงแรมที่เกิดเหตุร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เกาะเต่า ร่วมสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม และตรวจสอบจุดพบศพ โดยพนักงานโรงแรมให้การว่า ตำแหน่งที่พบศพห่างกันประมาณ 20 เมตร โดยศพผู้ชายอยู่บริเวณบันไดลงสระลักษณะนอนหงาย ส่วนศพผู้หญิงอยู่บริเวณขอบสระอีกฝั่ง ซึ่งมีความลึกประมาณ 2.20 เมตร สภาพนอนคว่ำหน้า ส่วนหัวอยู่บริเวณขอบสระ ลำตัวยื่นออกไปในสระน้ำ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไม่พบมีการบันทึกบริเวณที่พบศพ เนื่องจากทางโรงแรมได้ถอดกล้องวงจรปิดบริเวณสระน้ำ ตามคำสั่งของทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ห้ามให้มีการเล่นน้ำในสระน้ำในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ขณะที่แนวทางการสืบสวน ทราบว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็น เบาหวาน ความดันและโรคลมชัก ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุพบขวดเบียร์ ขวดเล็ก 2 ขวด และภายในห้องพักพบอีก 4 ขวด รวม 6 ขวด ที่ผู้ตายทั้งสองดื่มก่อนพบศพ เบื้องต้นชุดสืบสวนยงไม่พบพิรุธหรือข้อบ่งชี้ในการเสียชีวิตว่ามาจากการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด โดยในวันพรุ่งนี้จะมีบิ๊ก ตร.จะลงพื้นที่คลี่คลายคดีอีกครั้ง เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นคนดัง คดีจะต้องคลี่คลายอย่างโปร่งใส

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่า ผู้ตายทั้งสองคนเสียชีวิตจากการขาดอาการหายใจ ภายในปอดพบมีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลภายใน 30 วัน

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/e9jGhgHKlo4