(2 พ.ค.) สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้ว 152,783,233 ราย และเสียชีวิตแล้ว 3,205,682 ราย โดยประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดขณะนี้คือ อินเดีย

โดย อินเดียยังคงวิกฤติ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในวันเดียวทะลุ 4 แสนราย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และนับเป็นวันที่ 10 ติดต่อกัน ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากวก่า 3 แสนราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศมีมากกว่า 19 ล้านราย มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 3,523 ราย แต่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่าที่รายงานไว้

สถานการณ์วิกฤตินี้ เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตสาธารณสุขที่พังทลาย โดยเฉพาะที่ กรุงนิวเดลี ผู้ป่วยจำนวนมากล้นออกมาอยู่นอกโรงพยาบาลต่างๆ นอนตามข้างทาง หรือลานจอดรถ เพื่อรอเตียงและอ๊อกซิเจน บางคนอาการหนักเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษาหลายราย

ทั้งนี้ การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดทะลุ 4 แสนราย มีขึ้นในวันเดียวกับที่รัฐบาลอินเดีย เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้กับผู้มีอายุ 18 - 45 ปี ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนขอรับวัคซีนมากกว่า 13 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานวัคซีนเริ่มขาดแคลนแล้ว ทั้งที่อินเดียถือเป็นคลังผลิตวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งในโลก ก็กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัคซีนแล้ว ทำให้ต้องสั่งระงับการส่งออก วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ชั่วคราว เพื่อรองรับความต้องการใช้ภายในประเทศ

จนถึงปัจจุบัน อินเดียได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 150 ล้านโดส เทียบเท่ากับร้อยละ 11.5 ของประชากร 1.3 พันล้านคน ล่าสุดเมื่อวานนี้ อินเดียได้รับวัคซีนของ สปุตนิค ไฟว์ จำนวน 1.5 แสนโดส จากรัสเซียแล้ว เพื่อเพิ่มความสามารถในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศ

ขณะที่ อนามัยโลกรับรอง ได้อนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มเติม ให้ใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน คือ 'โมเดอร์น่า' ยืนยันประสิทธิภาพที่ 94.1% หลังจากที่เคย อนุมัติวัคซีน ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค , แอสตร้า เซเนก้า ที่ผลิตในเกาหลีใต้ และ อินเดีย รวมทั้ง จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไปแล้วก่อนหน้านี้