ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pim Pawinee โพสต์คลิปเหตุการณ์หลังไปสมัครงานร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ถูกพนักงานของร้านปฏิบัติอย่างหยาบคาย ด้วยการกระชากหน้ากากอนามัยทิ้งลงพื้น ดึงหู บีบแขน และไล่ออกจากร้าน

ทำให้ผู้สมัครงานรายดังกล่าวเกิดความโกรธ และนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิป เข้าไปถามหาความถูกต้องในการกระทำดังกล่าว ซึ่งในคลิปจะเห็นพนักงานร้านอาหารสวมเสื้อสีแดง แสดงสีหน้าไม่พอใจ และชี้หน้าผู้ถ่ายคลิป หวิดจะมีเรื่องกันอีกครั้ง จนผู้จัดการร้านที่สวมเสื้อสีน้ำเงินเข้ามาห้ามปราม

โดยผู้โพสต์ระบุว่า “วันนี้เรามีนัดสัมภาษณ์งาน แต่เราคุยกับทาง HR ว่าเราจะทำตำแหน่งงานไหนก็ได้ แต่ทางร้านไม่รู้เรื่อง เลยว่าเราว่ามาทำงานตำแหน่งไหนยังไม่รู้เรื่อง พูดจาไม่ดีใส่ เราเลยบอกว่าจะเอาที่คุยในไลน์ให้ดูนะคะ แต่เราลืมว่าโทรศัพท์อยู่กับหลาน หลานเรารอข้างนอก ทางร้านเลยบอกน้องคิดว่ามีความพร้อมมั้ยจะมานะ เราทำงานเป็นทีมนะ อายุเท่าไหร่เนี่ย พูดแบบไม่ดีด้วยเลย (น้ำเสียงท่าทาง)

เราเลยบอกว่างั้นเราไม่สัมภาษณ์ก็ได้ค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้จะยืนให้เขาว่าทำไม ซึ่งเราพูดจาดีมากไม่ได้ใส่น้ำเสียงโมโหนะตอนแรก เพราะเราไปสมัครงานก็ประหม่าอยู่แล้ว จากนั่นพนักงานก็บีบแขนดึงหู แล้วก็ดึงแมสก์ออกแล้วลากแขนเราออกมานอกร้านแล้วโยนแมสก์เราทิ้งพื้น เราเลยไปเอาโทรศัพท์กับหลานแล้วย้อนมาถ่ายคลิปที่เห็นนี่แหละค่ะ เราก็ตกใจนะว่าพี่เขาเป็นอะไรทำไมทำขนาดนี้ เราแค่นักศึกษาหาประสบการณ์ทำงานเจอแบบนี้เราก็ไม่กล้าไปสมัครงานเลย เคยทำงาน 3-4 ที่ไม่เคยเจอแบบนี้จริงๆ”

ขณะที่ บริษัท wine connection ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า “ขณะนี้ ทางบริษัทไวน์คอนเน็คชั่นได้ทราบถึงเหตุการณ์และการการะทำของพนักงานแล้ว ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวเพิ่งได้ปฏิบัติงานกับบริษัท และได้กระทำการที่ไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ทาง บริษัทยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ทางไวน์คอนเน็คชั่นไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมของพนักงานคนนี้ไม่ได้เป็นตัวอย่างขององค์กร หรือมาตรฐานการให้บริการที่เรายึดถือตลอดมา พนักงานคนดังกล่าวได้พ้นสภาพการจ้างงานเรียบร้อยแล้ว”

ขณะเดียวกัน สาวผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ออกมาขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ และได้มีการปิดเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด นางสาวภาวิณี (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์ พร้อมพี่สาว เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ลาดกระบังพร้อมเปิดเผยว่า ต้องการภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพื่อยืนยันว่าตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ และไม่ได้เริ่มก่อนเพราะหลังจากที่โพสต์เฟซบุ๊กไปแล้วมีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าตนเป็นฝ่ายทีไปเหวี่ยง ใช้กิริยาไม่เหมาะสมกับพนักงานคนดังกล่าวก่อนหรือไม่ จึงอยากปกป้องตนเอง ยืนยันตนไม่ได้เหวี่ยงไม่ได้ดึงหน้า เพราะตนไปสมัครงาน

เมื่อเขาถามว่ามาสมัครตำแหน่งอะไร ตนก็บอกไปตามตรงว่าตำแหน่งอะไรก็ได้ ตนทำได้ทุกตำแหน่ง เพราะคุยกับ HR มาแบบนี้ เขาก็เหวี่ยงใส่ไม่หยุด ตนจึงถามกลับว่าทำไมถึงต้องเหวี่ยงใส่ตน เขาก็ไม่พอใจ ดึงหู บีบแขนตน ดึงตนออกไปนอกร้าน แล้วดึงหน้ากากอนามัยของตนปาลงพื้น ทั้งที่มีลูกค้าอยู่ในร้านหลายคน ตนจึงไปเอาโทรศัพท์ที่หลานมาถ่ายคลิปไว้

ซึ่งส่วนตัวมองว่าพนักงานคนดังกล่าวไม่มีวุฒิภาวะ และไม่ได้มีการสำนึกผิดหลังจากที่ก่อเหตุไปแล้ว เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาขอโทษตนแต่อย่างใด ส่วนที่ทางบริษัทออกมาแถลงขอโทษนั้นส่วนตัวแล้วมองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัท แต่หากบริษัทจะให้ตนเข้าไปทำงานที่ร้านดังกล่าวตนก็คงไม่ไปแล้ว ซึ่งหากคู่กรณีออกมาขอโทษก็พร้อมให้อภัย แค่ในส่วนของคดีก็ต้องดูก่อนว่าคู่กรณีมีความจริงใจในการขอโทษมากแค่ไหน

ทั้งนี้ รู้สึกสงสารที่เขาถูกไล่ออกจากงาน เหมือนไปตัดอนาคตเขาในภาวะแบบนี้ แต่หากเขามีสำนึกขอโทษสักนิด หรือพูดจาดีๆ ตั้งแต่แรก เรื่องคงไม่บานปลายขนาดนี้

ขณะที่ นางสาวแพน พี่สาว กล่าวว่า น้องสาวของตนเป็นเด็กขยัน เรียนดี ปิดเทอมก็มักจะไปสมัครงาน เพื่อหารายได้พิเศษ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว และเก็บประสบการณ์ ทั้งนี้ยอมรับว่า ส่วนตัว รู้สึกไม่พอใจ กับพฤติกรรมของพนักงานคนดังกล่าว เนื่องจากหลังจากที่ก่อเหตุแล้ว ก็ยังคง มีการหยิบกล้องมาถ่ายคลิปกลับ และยังท้าทายด้วยการถอดหน้ากากอนามัย เบะปาก และชี้หน้าใส่ด้วย ขนาดยังไม่ทำงานที่ร้าน ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้หากเข้าไปทำงานจริงจะเจอขนาดไหน

เบื้องต้นพนักสอบสวนให้นักศึกษาสาวลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนเพื่อขอดูภาพวงจรปิดจากทางร้านนำมาประกอบเพื่อสรุปหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น และจะสามารถแจ้งข้อหากับทางคู่กรณีในข้อหาใดได้บ้าง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9ud4MjIDzXI