จัดหนักซักฟอก! 'สุทิน' ซัด รบ.บิ๊กตู่ ล้มเหลว พาประเทศอยู่ก้นเหว

เลือกตั้งและการเมือง

จัดหนักซักฟอก! 'สุทิน' ซัด รบ.บิ๊กตู่ ล้มเหลว พาประเทศอยู่ก้นเหว

โดย pattraporn_a

16 ก.พ. 2564

2.2K views

สุทิน จัดหนักซักฟอก “รัฐบาลบิ๊กตู่” ล้มเหลวพาประเทศอยู่ก้นเหว แซะโชคดีใช้วิกฤตโควิดเป็นข้ออ้าง แต่เป็นโชคร้ายของประชาชนลำบากถ้วนหน้า ซัดไร้ประสิทธิภาพ-ทุจริตบาน-บ่อนเต็มเมือง


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปราย ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านอ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยย้ำว่า 4 วันจากนี้หวังผลจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ประชาชนอยู่ดีกินดี และชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของรัฐมนตรีเพื่อเป็นประโยชน์กับนายกรัฐมนตรี นำไปสู่การปรับครม. ยืนยันการตั้งข้อกล่าวหารุนแรง ไม่ได้เป็นอคติ แต่สะท้อนความล้มเหลวในการทำงานของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีโชคดีที่อ้างวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด เพราะหากเป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่นคงไปแล้ว จึงเป็นโชคดีที่นำวิกฤตโควิดไปเชื่อมโยงกับทุกเรื่อง แต่เป็นโชคร้ายของประชาชน วันนี้เราอยู่ก้นเหว และหลายประเทศในโลกอยู่บนพื้นดิน ส่วนประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่บนภูเขา ถือเป็นยุคที่ไทยลำบากที่สุด และลงไปถึงทุกระดับ


“จากปัญหาเศรษฐกิจนำมาสู่ปัญหาสังคม ทั้งการฆ่าตัวตาย บ่อนเต็มเมือง ยาเสพติดเต็มบ้าน”


นายสุทิน ยังกล่าวถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดระลอก 2 ว่ารัฐบาลโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง เพราะสาเหตุมาจากบ่อนการพนันและการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขณะที่มาตรการสะกัดโรคก็ยังไม่ได้ผล อย่าเพิ่งอวดต่างชาติเพราะสถานการณ์ยังไม่จบ รวมถึงการเยียวยาที่เกิดปัญหา ที่สำคัญความหวังเดียวเรื่องวัคซีนก็เกิดความล่าช้า


“ความล้มเหลวของรัฐบาล มาจากวิธีคิดของนายกรัฐมนตรีที่มีปัญหา เพราะถ้าเริ่มต้นผิด ก็ทำผิด และผลที่ออกมาก็ผิด และที่น่าเป็นห่วง คือ “การไม่ยอมรับความจริง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาและอุปสรรคของประเทศ”


นายสุทิน กล่าวว่า นอกจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ยังชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เป็นยุคที่ทุจริตมากที่สุด โดยได้หยิบยกผลวิจัยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่คิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปจากการจ่ายใต้โต๊ะกว่า 3 แสนล้านบาท ขณะที่ผู้มาแก้ปัญหาปราบปรามทุจริต คือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 7 คน กลับใช้ช่องทางกฎหมาย ไม่ชี้แจงบัญชีทรัพย์สินเหมือนคนอื่น ตอกย้ำความไม่จริงใจ และสร้างความเคลือบแคลงสงสัย


ทั้งนี้ ระหว่างนายสุทินอภิปราย ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาญัตติที่พาดพิงสถาบัน ว่า ไม่มีใครกล้านำประเด็นนี้มาเล่นการเมืองเพราะไม่คุ้ม แต่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น และจำเป็นต้องทำ ซึ่งนายไพบูลย์ ได้ลุกขึ้นประท้วง ระบุว่ามีการอภิปรายวนเวียนมาเกี่ยวกับสถาบัน ขอให้ถอน โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยว่าการอภิปรายยังอยู่ในญัตติ และเนื้อหาไม่สร้างความเสียหายต่อสถาบัน จากนั้นนายสุทินได้อภิปรายต่อ โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

คุณอาจสนใจ

Related News