“ไมกี้-ปณิธาน” หนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ดีกรีสุดปัง จากหนุ่มเปิดหมวก สู่พระเอกดาวรุ่ง เรื่อง “ขวัญฤทัย”

19 เม.ย. 67

495 Views

“ไมกี้-ปณิธาน” หนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ดีกรีสุดปัง จากหนุ่มเปิดหมวก สู่พระเอกดาวรุ่ง เรื่อง “ขวัญฤทัย”

“ไมกี้-ปณิธาน” หนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ดีกรีสุดปัง จากหนุ่มเปิดหมวก สู่พระเอกดาวรุ่ง เรื่อง “ขวัญฤทัย”

          กลายเป็นขวัญใจมัมหมีทั่วประเทศไปแล้วตอนนี้ สำหรับพระเอกน้องใหม่ดาวรุ่งหน้าหวาน “ไมกี้ ปณิธาน” ที่ครองใจแฟน ๆ ในบท “พันตรี นายแพทย์ หม่อมหลวง ฉัตรเกล้า จุฑาเทพ” ประกบคู่กับนางเอกมากฝีมือ “ญดา นริลญา”  ในละครชุด “ดวงใจเทวพรหม” เรื่อง “ขวัญฤทัย” ทางช่อง 3 บุตรคนแรกของ หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร กับกรองแก้ว แจ้งเกิดผลงานเรื่องแรกเต็มตัวกับความสามารถทางการแสดงที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเจอ เราจะพาไปทำความรู้จักหนุ่มหน้าหวานคนนี้ให้มากขึ้นกับมุมเบื้องหลังชีวิตก่อนเข้าสู่วงการบันเทิงกันแบบถึงแก่น

          หนุ่ม ไมกี้ มีชื่อเต็มว่า ปณิธาน บุตรแก้ว หนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมัน สัญชาติ ไทย เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2546  ปัจจุบันอายุ 21 ปี น้ำหนัก 64 ส่วนสูง 180 จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ โรงเรียนลำปางกัลยาณี และกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดดิจิตอล มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นหนุ่มขี้เล่นอัธยาศัยดี ยิ้มง่าย ชอบงานศิลปะและการร้องเพลงเล่นดนตรีหนุ่มไมกี้เข้าวงการจากการชักชวนของ “ปิ๊ก ฌาณฉลาด” และมีโอกาสได้เข้ามาแคสติ้งในบท พันตรี นายแพทย์ หม่อมหลวง ฉัตรเกล้า จุฑาเทพ จากเรื่อง “ขวัญฤทัย” ด้วยเสน่ห์และความขี้เล่นของเจ้าตัวก็ทำให้ผู้จัด “แหม่ม ธิติมา” และผู้กำกับ “ป้าแจ๋ว ยุทธนา” ตกหลุมความน่ารักจนได้เซ็นสัญญาเข้ามาเป็นนักแสดงช่อง 3 เต็มตัว ล่าสุดกำลังมีผลงาน “หวานรักต้องห้าม” ประกบคู่สาวรุ่นพี่ “แมท ภีรนีย์” อีกด้วย


ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ได้อย่างไร?

ไมกี้ : เป็นความบังเอิญมากที่ผมได้มาเล่นในละครชุดนี้ เป็นละครชุดครั้งแรก เรื่องแรกของผมเลยที่ได้มาเล่น ก่อนหน้านี้ผมเล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่ที่กาดกองต้าที่ลำปางเป็นตลาดเก่า ๆ มีคนไปเจอผม เขาก็ชวนผมมาแคสละครของพี่แหม่ม ธิติมา ผมก็ลองไปแคสดู แล้วก็ได้เลย ซึ่งผมไม่เคยเรียนการแสดงมาก่อน ทุกอย่างคือศูนย์ พอได้แสดงเรื่องนี้จริง ๆ ก็แอบเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่ได้รับเล่นบท ฉัตรเกล้า ผมเลยต้องย้ายจากลำปางมาอยู่กรุงเทพทันที


ยึดงานร้องเพลงเปิดหมวกเป็นงานอดิเรกนานไหม?

ไมกี้ : นานเลยครับ ผมเปิดหมวกมาประมาณปีกว่า ตั้งแต่ ม.4-ม.5 กับวง ข้าวกั้นจิ้น ของผมและเพื่อน ๆ คนก็เริ่มมาจ้างไปร้องตามร้านอาหารบ้าง จ้างไปงานแต่งบ้าง ถือว่าช่วงนั้นรุ่งเรืองเลยครับ จากการร้อนเงินก็ยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักไปเลย(หัวเราะ) แต่ก่อนผมเป็นเด็กเสิร์ฟ ผมก็ลาออกจากงานพาร์ทไทม์เลย


เรื่องของการทำอาชีพเสริม แนวคิดแบบนี้มาได้ยังไง?

ไมกี้ : อาจจะเป็นเพราะครอบครัวด้วยครับ คุณแม่ก็ปล่อยให้ผมได้ฟรีสไตล์เลือกเส้นทางชีวิตของผมเอง ขอแค่ว่าการเรียนอย่าทิ้ง ผมก็สนุกกับเพื่อนเต็มที่ เที่ยวขับมอเตอร์ไซต์ ไปเล่นเกม ไปเล่นดนตรี แต่ผมก็ไม่ทำให้การเรียนแย่นะครับ ตอนอยู่โรงเรียนผมทำกิจกรรมเยอะ แล้วตอนนั้นผมก็เป็นรองประธานนักเรียนด้วย ชีวิตช่วงวัยเรียนของผมสนุกมากจริง ๆ


เป็นลูกคนเดียวไหม?

ไมกี้ : ผมเป็นลูกคนเดียวครับ แม่ผมเป็นครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ แล้วก็ได้ปรับเป็นครูใหญ่ สุดท้ายเขาก็ลาออกจากการเป็นครูเพราะว่าเขามีผม เขาอยากลาออกมาเลี้ยงลูกจริงจัง เพราะแม่ผมเป็นคนมีลูกยาก


นิสัยไมกี้ดูขัดกับลุคที่เป็นไหม เพราะเราก็ขึ้นแท่นเป็นพระเอกแล้ว?

ไมกี้ : มันมีคำพูดหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ คือ มนุษย์เราไม่มีใครที่มีลายนิ้วมือเหมือนกัน ทุกคนมีความพิเศษเป็นของตัวเอง อยู่ที่ว่าเราอยากไปค้นหาความพิเศษนั้นไหม แต่สำหรับผม ผมอยากทำ


ช่วงที่เปิดหมวกคิดอยากจะเข้าวงการบันเทิงไหม?

ไมกี้ : ตอนนั้นผมยังไม่ได้ชอบงานในวงการบันเทิงครับ ผมอยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ มันเป็นอาชีพที่ผมผูกพัน และเป็นอาชีพที่ผมรักมาก แม่ผมเป็นคุณครูด้วยก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่มีคุณค่า กับการที่จะทำให้เด็ก ๆ โตมาอย่างมีคุณภาพ ผมสนุกกับการได้ทำงานกับคนเยอะ ๆ เหมือนได้ฮีลใจตัวเองไปด้วย ตัวผมเรียนจบสายวิทย์-คณิต แต่อยากเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง บางทีครูสอนภาษาจะไม่ค่อยเข้าใจเด็กศิลป์ เด็กวิทย์-คณิต ผมก็อยากจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่เข้าใจเด็กวิทย์-คณิต ผมว่าผมน่าจะเอ็นจอยกับการสอน และเล่นกีต้าร์ไปด้วยก็น่าจะสนุกดี


ความรู้สึกแรกที่ได้ทำงานละคร?

ไมกี้ : ตื่นเต้นครับผมก็มีความกดดันอยู่บ้าง แต่ไม่ได้กดดันในด้านที่ไม่ดี กดดันว่าเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เราใหม่มากประสบการณ์อะไรเราก็ยังไม่มี


ป้าแจ๋วสอนอะไรเราบ้าง?

ไมกี้ : สอนทุกอย่างเลย ด้านแอคติ้งเขาก็โค้ชชิ่งเราตลอดทุกซีนเลยครับ เขาจะมาสอน ทั้งอารมณ์ การทำการบ้านของบท พี่ญดาก็ช่วยผมเยอะมาก วันที่ไม่ได้ไปถ่ายก็ไปเวิร์กชอปกับกองละครตลอด ป้าแจ๋วก็สอนผมตลอดเวลา มีพูดคุย เอาบทไปปรึกษาทุกซีน เขาสอนผมเยอะจริง ๆ ไม่ใช่แค่แอคติ้ง ด้านการใช้ชีวิตในกองก็สอนผมว่าต้องทำตัวยังไง เลี้ยงผมเหมือนเป็นลูกเลยครับ


กว่าจะมาเป็นพระเอกเรื่องนี้เราก็เจ็บตัวมาเยอะเหมือนกัน?

ไมกี้ : ใช่ครับ ตอนที่ถ่ายทำขวัญฤทัย มันมีคิวบู๊ค่อนข้างเยอะ เราก็พลาดล้มแล้วซี่โครงหักทิ่มปอด ผ่าตัดไป 2 รอบ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วครับ มีอีกช่วงก็คือตอนที่ถ่ายทำละครอีกเรื่องหนึ่ง อยู่ ๆ หัวใจก็เกิดเต้นผิดจังหวะขึ้นมา สาเหตุคือทำงานเยอะนอนน้อยครับ มันทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นเวลานาน เป็นประสบการณ์ที่น่าจะไม่มีใครอยากเจอ แต่มันสอนอะไรผมเยอะมาก ถ้าผมไม่ได้เจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ผมก็คงจะไม่ใช่ไมกี้ในวันนี้


มีคิดบ้างไหมว่าที่ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ของเรา?

ไมกี้ : มีคิดอยู่แล้วครับ ผมนั่งร้องไห้ทุกวัน ถึงขั้นที่แบบคิดว่าไม่อยากมาทำงานแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ ระหว่างทางก็ไม่อยากเจอไม่อยากคุยกับใคร เมื่อไหร่จะจบสักทีคิดแบบนี้ตลอดเวลา ก็ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ หาความสุขระหว่างทาง มันอยู่ที่มุมมอง ถ้าเรามองแต่ในแง่ร้ายเราก็จะคิดแต่ในมุมนั้น แล้วเราก็จะท้อไปด้วย แต่ถ้าเรามองแง่ดี มองแต่สิ่งดี ๆ มองถึงโอกาส ความโชคดี มันก็ช่วยดันเอนเนอจี้เราขึ้นเรื่อย ๆ ครับ


ตอนนี้มุมมองในวงการบันเทิงเปลี่ยนไปไหม?

ไมกี้ : มุมมองในวงการบันเทิงเปลี่ยนไปเยอะเลย ตอนนี้รู้สึกดีมาก ๆ ผมใช้คำว่าตกหลุมรักการแสดงไปแล้ว ถ้ามีโอกาสก็อยากจะประสบความสำเร็จในฐานะที่ตัวเองขึ้นชื่อว่าเป็นอาชีพนักแสดง


            เป็นนักแสดงน้องใหม่ที่ความสามารถล้นเหลือจริง ๆ ตามไปดูความน่ารักทางการแสดงของหนุ่มดาวรุ่งคนนี้กันได้ในละครชุด “ดวงใจเทวพรหม” เรื่อง “ขวัญฤทัย” เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus  และไปติดตามความเคลื่อนไหวของหนุ่มคนนี้กันได้ Instagram : mikepanitan Twitter : mikepanitan

รับชม “ขวัญฤทัย” ย้อนหลังได้ทางเว็บไซต์ 3Plus >https://ch3plus.com/drama/1580 และ 3Plus Application พิเศษ! สมัครสมาชิก 3Plus Premium สามารถดูละครย้อนหลังได้ก่อนใคร ไม่มีโฆษณาคั่นกวนใจ เริ่มต้นเพียง 99 บาท/เดือน คลิก > https://ch3plus.com/packages


แกลเลอรี่