เปิดมาถึงกับอึ้ง! ที่แท้ “ผิน-แย้ม” คือตัวละครลับ จุดเริ่มต้น “คัมภีร์กฤษณะกาลี” จาก “บุพเพสันนิวาส” สู่ “พรหมลิขิต”

13 ธ.ค. 66

1.3K Views

เปิดมาถึงกับอึ้ง! ที่แท้ “ผิน-แย้ม” คือตัวละครลับ จุดเริ่มต้น “คัมภีร์กฤษณะกาลี” จาก “บุพเพสันนิวาส” สู่ “พรหมลิขิต”

เปิดมาถึงกับอึ้ง! ที่แท้ “ผิน-แย้ม” คือตัวละครลับ จุดเริ่มต้น “คัมภีร์กฤษณะกาลี” จาก “บุพเพสันนิวาส” สู่ “พรหมลิขิต”

สร้างเซอร์ไพรส์ไม่หยุดจริง ๆ ละครฟอร์มยักษ์อิงประวัติศาสตร์ “พรหมลิขิต” ทางช่อง 3 ของผู้จัด “หน่อง อรุโณชา” แห่งค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น หลังเปิด 4 ตัวละครลับ แม่ทัพอนิลบถ (ภณ ณวัสน์) เจ้าหญิงอทิตยา (น้ำหวาน ภูริตา) ฑิฆัมพรราชา (เพื่อน คณิน) และ พระนางจันทราวดี (หลิงหลิง ศิริลักษณ์) จุดเริ่มต้นบ่วงกรรมข้ามภพ จนทำให้เกิดมนต์กฤษณะกาลี เท่านั้นไม่พอ ยังมีตัวละครลับที่ทำคนดูเซอร์ไพรส์ไปอีก คือ พี่ผิน-พี่แย้ม รับบทโดย หยา จรรยา และ นุ่น รมิดา นอกจากจะอยู่ในเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่ไม่คิดว่าจะโผล่มาเซอร์ไพรส์ในพาร์ท 1,000 ปี ยังเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์จนแฮชแท็ก #พรหมลิขิตEP23 ติดเทรนด์ X ไทยแลนด์และเทรนด์โลกอันดับ 1 กันเลยทีเดียว

งานนี้ไม่ปล่อยให้รอช้า คว้าตัว หยา จรรยา มาเผยถึงประเด็นตัวละครลับว่า “ความรู้สึกแรกตื่นเต้น เพราะว่ามันต้องเล่าเรื่องราวในอีกพาร์ทหนึ่ง จริง ๆ ต้องบอกว่าในบทประพันธ์เล่าไว้ประมาณหนึ่ง แต่โดยบทละครที่อาจารย์แดงเขียนก็นำมาขยาย “นาย” ผู้กำกับ ก็ขยายเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะมีคนตั้งคำถามว่าทำไม 2 คนนี้ถึงรักแม่นายทั้ง ๆ ที่มันโดนตบ โดนตี โดนทำร้าย แต่ก็รักสุดหัวใจ ทำไม เพราะอะไร อีพีเมื่อคืนเป็นตัวที่ตอบทุกคนได้ดีเลยว่า เพราะเราร่วมกรรมเดียวกันมากับเขา เราไปสร้างกรรมร่วมกัน เพราะฉะนั้นมันเลยจำเป็นต้องมาประสบพบเจอกันทุกชาติ”

ฝั่ง นุ่น รมิดา ก็ได้พูดถึงการแสดงในพาร์ทนี้ว่า “เซอร์ไพรส์เหมือนกันนะ ที่รู้ว่าพี่ผินและพี่แย้มเป็นตัวต้นเหตุในยุคพันปี ซึ่งในพาร์ทพันปีนี้เราไปถ่ายทำกันที่ ‘อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง’ และ ‘ปราสาทเมืองต่ำ’ ด้วยสถานที่ที่เราไป ในยุคอารยธรรมหนึ่ง ในพันปีที่แล้วสิ่งนี้มันอ้างอิงถึงได้ มันก็ทำให้รู้สึกถึงการแสดงได้ลึก มันเป็นพาร์ทแค่สั้น ๆ ก็จริง แต่ว่าน้องทุกคนก็ทำเต็มที่ นุ่นว่ามันดีตรงที่ไม่มีไดอะล็อกเยอะ เป็นภาพเล่าเรื่อง ทำให้ดูขลัง ถ้าเป็นไดอะล็อกมันจะเหมือนละครเลย ถูกไหม แต่พอเป็นแค่ภาพเล่าเรื่อง มันเลยดูเหมือนมีความเชื่อว่าไม่ต้องพูดไรกันเยอะ เราเพียงเล่าว่าเรื่องมันเป็นยังไง”

หยา จรรยา ยังเปรยถึงบรรยากาศในการถ่ายทำอีกว่า “ตอนแรกคิดว่าจะร้อนมาก นี่เอาตู้แอร์ไปด้วย เอาขึ้นรถตู้ไป ปรากฏฝนตก แล้วเราถ่ายเอาท์ดอร์หมด วันแรกพอไปถึงก็ไปไหว้ ขึ้นไปที่ปราสาทหินพนมรุ้งเลย เราก็ตั้งแท่นไหว้พระศิวะ ไหว้ฟ้าดิน ก็หยุดตอนที่เรากินข้าวเสร็จแล้วเริ่มทำงานพอดี ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถ่ายเร็วด้วย 2 วันที่ถ่ายก็คือแบบแฮปปี้ หนึ่งก็ไม่ได้เจออากาศที่ร้อนขนาดนั้น แต่สถานที่จริงสวยมากจริง ๆ แม้ว่าฝนจะตกนิดหน่อย เสื้อผ้าหน้าผมพาร์ทนี้พี่หน่องก็จัดเต็ม งานอลังการจริง ๆ”

และนุ่น รมิดา ฝากถึงความพิเศษของละครว่า “แม้ว่าจะเป็นเรื่องในยุคสมัยช่วงท้ายของอยุธยาที่อาจจะหาการบันทึกหรือการจดบันทึกเพื่อที่จะเล่าถึงยากมาก มันเป็นยุคสมัยที่ถูกพูดถึงน้อย แต่เรื่องนี้ได้พูดถึงในเรื่องของจังหวะนั้นได้อย่างสวยงาม สิ่งที่อาจารย์แดงทำให้เราเห็นในบุพเพสันนิวาสว่าทุกตัวละครมันมีความต้องการ ทุกคนไม่ขาว ทุกคนไม่ดำ ทุกคนคือเทา ๆ ในความเทาทุกคนมีความต้องการของตัวเองอยู่ แล้วมันก็มีสิ่งนี้ในพรหมลิขิต นอกจากเรื่องประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นน่าติดตาม เรื่องวัฒนธรรม เรื่องอาหารเพียบ ก็อยากให้ละครเป็นซอฟต์พาวเวอร์ตลอดไป เราอยากช่วยสนับสนุน มันไม่ใช่แค่บุพเพสันนิวาสหรือพรหมลิขิตที่นักแสดงจะดังขึ้น แต่มันทำให้ประเทศของเราไปไกลมากขึ้น

เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายกันแล้ว ตัวละคร “พี่ผิน-พี่แย้ม” จะมีบทสรุปยังไง ออเจ้าเตรียมคว้ารีโมทดูไปพร้อมกัน ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus และรับชม “พรหมลิขิต” ย้อนหลังได้ก่อนใคร ครบทุก EP. ไม่มีโฆษณาคั่น รวมถึงไฮไลท์แบบฟินจัดเต็มได้ที่ 3Plus Premium > https://ch3plus.com/drama/1511 สมัคร 3Plus Premium เริ่มต้น 99 บาท/เดือน คลิก > https://ch3plus.com/packages พร้อมติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมทาง https://ch3plus.com หรือ 3Plus Application 


แกลเลอรี่