เกาะติด COP28 ถกยุติใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล 1 ในต้นตอโลกรวน

การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 หรือ COP 28 ที่นคร ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครบ 1 สัปดาห์แล้วในวันนี้ ซึ่งตัวแทนของประเทศต่างๆ ยังคงมุ่งเน้นไปการทำพันธะสัญญา ในการยุติการใช้ถ่านหิน น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ



ตัวแทนเจรจาจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุม COP28 ได้สรุปสัปดาห์แรกของการทำงาน ในระหว่างการประชุม COP28 ว่ามีความคืบหน้าระดับปานกลางในบางประเด็น ก่อนที่รัฐมนตรีของรัฐบาลต่างๆ จะกลับมาเข้าร่วมประชุม ในสัปดาห์สุดท้าย เพื่อกำหนดทิศทาง ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต



นาย ว็อบเก โฮกสตรา (Wopke Hoekstra) คณะกรรมธิการด้านสภาพอากาศของสหภาพยุโรป แถลงในที่ประชุม ในวันนี้ว่า ที่ประชุมสุดยอด COP 28 จะต้องทำข้อตกลงขั้นสุดท้าย เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น ของการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพราะเราไม่มีทางเลือก นอกจากจะทำตามคำแนะนำของนักวิทยาศาสตร์ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอล เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายนี้ มีส่วนสำคัญสำหรับสหภาพยุโรป และการเจรจาต่อรอง ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า เรายังจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ก่อนยุคก่อนอุตสาหกรรม



ขณะเดียวกันในการสัมมนา ซึ่งจัดคู่ขนาน ในที่ประชุม COP 28 ในวันนี้ ได้มีการอภิปราย เกี่ยวกับ อนาคตของเชื้อเพลิงฟอสซิล และ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ ที่กำลังพัฒนา ซึ่ง รัฐมนตรีสาธารณสุขของ แอนทีกาและบาร์บิวดา หนึ่งในผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบร้ายแรง ต่อ พื้นที่ที่เป็นเกาะเล็กๆ ที่เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และระบุด้วยว่า ผู้ที่ผลิต และ บริโภค เชื้อเพลิงจากฟอสซิส เป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดภาวะโลกร้อน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า กลุ่มคนเหล่านั้น จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโลกร้อน สำหรับ ประเทศ แอนทีกาและบาร์บิวดา เป็นประเทศเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนตะวันออก ได้เป็นผู้ลงนาม ในการริเริ่มสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายเชื้อเพลิงฟอสซิสแล้ว



ขณะเดียวกัน ในวันนี้ มีกลุ่มเด็กๆ จากแอฟริกา และ ลาติน อเมริกา มารวมกลุ่มกัน ที่บริเวณพื้นที่จัดการประชุม COP28 ในนครดูไบ เพื่อแสดงพลังของเด็กๆ ซึ่งต้องการทุกคนได้ยินเสียงของพวกเขา และร่วมในการตัดสินใจเรื่องสภาพภูมิอากาศ ในการประชุม COP28 ในครั้งนี้ด้วย โดยเด็กๆ ระบุว่า อนาคตของพวกเขา กำลังตกอยู่ในอันตราย และขอให้ผู้นำต่างๆ เร่งดำเนินการในการยุติปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยเร็ว



โดย เรแวน อาห์เหม็ด เด็กหญิงวัย 13 ปี จากลิเบีย ซึ่งเพิ่งเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมหนักจากพายุพัดถล่มรุนแรง ระบุว่า โลกกำลังอยู่อาศัยอยู่ในท่ามกลางการล่มสลายของสภาพอากาศ และเรามารวมตัวกันที่นี่ ก็เพื่อปกป้องอนาคตของเราเอง ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งที่เราไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น