'ปอป้อ' ยันไม่ได้ขอ หลังโอลิมปิกไทย อ้างขอใส่ชุดหลวม - 'ศ.เจริญ' กลับลำ วิจารณ์ชุดต่างชาติ 'งิ้วกับลิเก'

เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งโต๊ะแจงดรามาชุดพิธีการ เผย 'ทรงสมัย' เป็นผู้ตัดเย็บ โยน 'ปอป้อ' เป็นคนขอให้ตัดชุดยาวๆ หลวมๆ ด้าน 'เจริญ' รองประธาน คกก.โอลิมปิกฯ ซัดแรง เปรียบชุดพิธีการของต่างประเทศ ที่หลายคนชมเหมือน 'งิ้วกับลิเก' ก่อนปฏิเสธภายหลังว่าเป็นยกตัวอย่าง

วานนี้ (19 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย นัดแถลงข่าวจากการที่มีประเด็นเกี่ยวเนื่องกับภาพนักกีฬาสวมชุดไทยพระราชทาน ระบุว่า ตนพบว่าความเข้าใจผิดในวงกว้าง จึงขอนุญาตชี้แจง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ดังกล่าว

โดยในฐานะตัวแทน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น และน้อมรับฟังฟังทุกความคิดเห็น เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธ์ที่จะออกความเห็นร่วมกันอย่างเท่าเทียม ภายใต้ความสุภาพและเคารพกันในฐานะคนไทยด้วยกันและต้องขออภัยมา ณ ที่นี้สำหรับความเข้าใจผิด และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทีมงานไม่ว่าจะในส่วนไหน เนื่องด้วยที่ผ่านมาทางโอลิมปิก ไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจนว่าชุดไหนใช้สำหรับงานช่วงใดในโอลิมปิกครั้งนี้

เนื่องจากทางคณะกรรมการโอลิมปิก และทีมงาน มีความตั้งใจในการเผยแพร่ ศิลปะ วัฒนธรรม ร่วมขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทย ผ่านวัฒนธรรมผ้า และสิ่งทอไทย จึงได้มอบหมายให้ทีมออกแบบของแต่ละแบรนด์ ทำมาเสนอ ซึ่งก็จะมีในส่วนของ ชุดกีฬา แจ๊คเก็ต ชุดไทยพระราชทาน รองเท้า กระเป๋า ต่างๆ ซึ่งทางคณะกรรมการโอลิมปิก เป็นผู้คัดเลือกออกแบบตัดเย็บเอง ภายใต้ชื่อแบรนด์ ทรงสมัย ทางคณะกรรมการโอลิมปิก ดำเนินการคัดเลือกผ้าเอง ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด การออกแบบตัดเย็บ เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการโอลิมปิกทั้งหมด ไม่มีหน่วยงานใดๆ เกี่ยวข้องทั้งสิ้น

จากเหตุการณ์ทั้งหมด ทางคณะกรรมการโอลิมปิก ขอรับผิดชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว ในส่วนของชุดไทยพระราชทานสีฟ้าที่ปรากฏนั้น ทางคณะกรรมการได้กำหนดให้นักกีฬาใช้สวมใส่ ในวาระโอกาส งานพิธีที่เป็นทางการ

ส่วนชุดที่จะใช้ในพิธีเปิด จะเป็นเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงินจากแกรนด์สปอร์ต ในการประชุมตน และคณะกรรมการได้ย้ำคอนเซ็ปต์กับทางทีมผู้ออกแบบและตัดเย็บ ว่าขอให้เป็นผ้าที่สวมใส่สบายไม่อึดอัด เข้ากับสภาพอากาศ แต่ต้องแฝงด้วยเรื่องราวและอัตลักษณ์ความเป็นไทย มีความ ทันสมัยและเป็นสากล ซึ่งมองว่าทางแกรนด์สปอร์ตทำออกมาได้ดี

ในตอนแรก ตนยังคิดอยากนำเสื้อลายช้างที่เป็นที่รู้จักและนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ทัพนักกีฬาสวมใส่ ขึ้นเรือ เพราะเห็นว่าเนื้อผ้าใส่สบายมีความพลิ้วไหวดี แต่ก็กังวลจะเกิดประเด็นว่าไม่เหมาะสมดูสบายๆ ไป จึงได้คิดใหม่ ทำใหม่อย่างระมัดระวังมาโดยตลอด

ที่ผ่านมามองว่าการแต่งกายที่ออกแบบในโอลิมปิกเกมส์ระดับนานาชาติ ตั้งแต่ ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ เราใช้สูทธรรมดาสากล ปีนี้เป็นปีที่เรามองว่าเป็นสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของคนไทยจริงๆ หลายประเทศใส่ชุดพื้นเมืองต่างๆ เยอะแยะไป สามารถมองต่างมุมได้ ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะมองในภาพที่สวยหรูเกินไป หรือ มองในภาพที่ผิดไป ก็ต้องขอรับผิดชอบในสิ่งนี้ด้วย

ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องของทรงของชุดนักกีฬา ในเรื่องของการตัดเย็บที่ไม่เข้ากับรูปร่างของนักกีฬานั้น ในส่วนนี้ ทรงสมัยรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตัดเย็บ โดยจะพิจารณาว่าควรต้องทำอย่างไรให้ไม่มีปัญหา เพราะรับฟังเสียงจากทุกฝ่าย “พร้อมเปิดกว้างใช้ เอไอ เจเนเรตก็ได้ หรือถ้ามีร้านที่ตัดสวยก็แนะนำมาได้”

ส่วนชุดที่ปรากฎนั้น ในส่วนของ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันทีมชาติไทยนั้น เราได้สอบถามไปยัง ทรงสมัย ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะชุดพระราชทานควรจะเข้ารูป แต่มาทราบว่า ทรัพย์สิรี บอกให้เอาแขนยาว ตัวยาว มันก็เลยออกมาแบบนี้”

ขณะที่ศาสตราจารย์(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกฯ กล่าวว่า ในฐานะอดีตนักกีฬาทีมชาติตั้งแต่ปี 2544 รวมแล้ว 23 ปี ที่ทำงานทุ่มเทให้กับวงการกีฬา ไม่ว่าสมัยไหนนักกีฬาไทยจะสวมเสื้อเบลเซอร์ และมี 1-2 ครั้ง ที่สวมชุดพระราชทาน ส่วนเสื้อเบลเซอร์ที่จะใส่ในครี้งนี้ ก็จะอยู่ที่กาลเทศะ ซึ่งเดิมที่อาจจะใส่ แต่พอมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าเสื้อเบลเซอร์ไม่เหมาะสม ก็ให้หัวหน้าคณะนักกีฬาเป็นผู้ตัดสิน ส่วนเสื้อแจ๊กเกตที่ใส่อยู่นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับชุดของต่างประเทศอย่าง มองโกเลีย เกาหลีใต้ เฮติ ที่มีการชมนักชมหนา เหมือนงิ้วกับลิเก พร้อมย้อนถามว่า จะนำชุดลิเกเข้าไปในกรุงปารีสหรือ

จากนั้นในช่วงท้ายการแถลงข่าว ศาสตราจารย์พิเศษ เจริญ ได้ออกมาแก้ต่างคำพูดของตนเอง หลังจากเปรียบเทียบชุดของชาติอื่นว่า “แต่ละชาติมีวัฒนธรรม เช่น มองโกเลีย ซึ่งเป็นชุดวัฒนธรรมเก่าแก่ของเขา ตัวเองหรือใครไม่มีสิทธิ์ไปมองว่าเขาเป็นงิ้วหรือลิเก แต่เป็นการยกตัวอย่างเท่านั้น และชุดของหลายชาติแม้แต่ของประเทศจีนไม่ใช้ชุดดั้งเดิมที่นำมาใช้ ดังนั้นเรื่องของเครื่องแต่งกายอยู่ที่ยุคยุคสมัย และมุมมองของคน และขณะนี้ทางคณะกรรมการโอลิมปิกไทย ได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ซึ่งครั้งนี้เรามีนักกีฬาไป 51 คน ซึ่งเพิ่มจากการแข่งขันครั้งก่อนที่มีนักกีฬาประมาณ 40 คน

------------------------------------

ด้าน ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก Popor Sapsiree Taerattanachai ของตนเอง หลังคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้ระบุตอนหนึ่งว่า ปอป้อได้รีเควสขอให้เสื้อมีแขนยาว และตัวยาว ไม่ได้เป็นทรงเข้ารูปเอง โดยปอป้อได้แชร์ข่าวดังกล่าว แล้วโพสต์ข้อความว่า

“ไม่ได้ขออะไรเลย… ขอเป็นกำลังใจจากทุกคนแทนนะคะ พร้อมสู้สุดใจในการแข่งขัน”

https://youtu.be/PDHGmUc5B0w