'ลิเวอร์พูล' หนาวมาก! ไล่ถล่ม 'ห้างขายยา' 4-0 รั้งจ่าฝูง ชปล. - 'อโมริม' ทิ้งทวนพา 'สปอร์ติง' อัด 'เรือใบ' 4-1

วันนี้ (6 พ.ย. 67) มีการแข่งขันฟุตบอลศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ 2024-2025 รอบ ลีก เสตจ ที่มีเพียงกลุ่มเดียว รวมทั้งหมด 36 ทีม โดย อันดับที่ 1 - 8 จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 9 - 24 ต้องเตะเพลย์ออฟกันอีก 2 นัด เหย้า-เยือน เพื่อหา 8 ทีม เข้ารอบต่อไป

‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ พบกับ ‘ห้างขายยา’ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จากเยอรมนี

ครึ่งแรก

ทั้ง 2 ทีม ต่างก็มีโอกาสในการทำประตู แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 61: เคอร์ติส โจนส์ แทงทะลุช่องแบบพอดิบพอดี และเป็น หลุยส์ ดิอาซ หลุดเดี่ยว เข้าไปงัดลูกข้ามนายทวารเข้าสู่ก้นตาข่าย ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0

นาทีที่ 63: โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปิดบอลเร็วจากบริเวณริมเขตโทษด้านขวาไปทางเสาสอง โดย โคดี กักโป ที่รออยู่โล่ง ๆ ทะยานโขกเสียบตาข่าย ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 2-0

นาทีที่ 83: โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลทางด้านขวา เปิดไปเสาสองให้ หลุยส์ ดิอาซ จากนั้น ดอซชิงจังหวะกับกองหลังแล้วพักบอลลงมาได้ ก่อนจะยิงเข้าไปลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 3-0

นาทีที่ 90+2: ดาร์วิน นูนเญซ พาบอลบุกเข้าเขตโทษ แล้วสับไกยิงติดกองหลัง แต่บอลได้เด้งมาเข้าทาง และเป็น หลุยส์ ดิอาซ ยิงซ้ำโล่ง ๆ ไม่มีพลาด กลายเป็นแฮตทริกของตัวเอง และทำให้ลิเวอร์พูลชนะขาดลอย 4-0 ทำให้ ‘หงส์แดง’ เป็นทีมเดียวที่ชนะรวด หลังเตะไป 4 นัด

สปอร์ติง ลิสบอน จากโปรตุเกส พบกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ

ครึ่งแรก

สปอร์ติง ลิสบอน ที่คุมทีมโดย รูเบน อโมริม กุนซือใหม่ของ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดนี้ จะเป็นการคุมทีม สปอร์ติง ลิสบอน นัดสุดท้ายในบ้าน

นาทีที่ 4: ‘เรือใบสีฟ้า’ ได้จุดโทษ ออกนำไปก่อน 0-1

นาทีที่ 38: วิกตอร์ เยอเคเรส สวนกลับ ทำประตูตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 46: มักซิมิเลียโน อเราโฮ ทำประตูให้ สปอร์ติง ลิสบอน ออกนำ 2-1

นาทีที่ 49: วิกตอร์ เยอเคเรส สังหารจุดโทษไม่พลาด สปอร์ติง ลิสบอน ออกนำ 3-1

นาทีที่ 80: วิกตอร์ เยอเคเรส สังหารจุดโทษอีกครั้ง สปอร์ติง ลิสบอน ออกนำ 4-1

ด้าน ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปน พ่ายให้กับ ‘ปีศาจแดงดำ’ เอซี มิลาน จากอิตาลี 1-3 ทำให้ ‘ราชันชุดขาว’ ลงเล่นไป 4 นัด แพ้ไปถึง 2 นัด ซึ่งนัดต่อไปจะเจอกับ ‘ลิเวอร์พูล’ วันที่ 27 พ.ย. 2567