อังกฤษสุดทื่อ เจ๊าจืดสโลวีเนีย นั่งแชมป์กลุ่ม 5 แต้ม - ออสเตรียม้ามืด เฉือนกังหัน 3-2 คว้าแชมป์กลุ่มดี

วานนี้ (25 มิ.ย. 67) มีการแข่งขันฟุตบอล ศึกยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม

อังกฤษ พบกับ สโลวีเนีย (กลุ่มซี)

นัดนี้ อังกฤษส่ง 'คอเนอร์ กัลลาเกอร์' แทน 'เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์' แต่เกมรุกไม่ได้แตกต่างจากนัดอื่นมากนัก ทำให้ครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0 ต่อมา...คนึ่งหลัง อังกฤษส่ง 'โคล พาลเมอร์' และ 'คอบบี้ ไมนู' ลงมาหวังบุกเอาสกอร์ แต่ก็ทำไม่ได้ จบ 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันไป 0-0

ทำให้ 'อังกฤษ' คว้าแชมป์กลุ่มด้วยการมีเพียงแค่ 5 คะแนน ส่วน 'สโลวีเนีย' มี 3 คะแนน จบอันดับ 3 ก็จริง แต่ก็ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ หลังจบเกม แฟนบอลต่างพากันโห่-ปาแก้วน้ำ ใส่ แกเร็ธ เซาธ์เกต 

-------------

เดนมาร์ก พบกับ เซอร์เบีย (กลุ่มซี)

ในเกม 90 นาที ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสในการยิงประตู แต่ไม่สามารถสำเร็จโทษได้ ทำให้จบเกม เสมอกันไป 0-0 ประตู


จากผลการแข่งขัน ทำให้อันดับ 2 ของ กลุ่มซี เป็นการแย่งกันระหว่าง เดนมาร์ก กับ เซอร์เบีย ซึ่งปรากฎว่า ทั้งสองทีมมี 3 คะแนนเท่ากัน เฮดทูเฮดเสมอกัน ส่วนประตูได้-เสีย ก็ทำได้เท่ากัน วัดแฟร์เพลย์ก็ยังเท่ากัน

สุดท้าย ต้องใช้เกณฑ์พิจารณาจากผลงานในรอบคัดเลือก ทำให้เดนมาร์ก คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

-------------

ออสเตรีย พบกับ เนเธอร์แลนด์ (กลุ่มดี)

เริ่มเกมมาได้แค่ 6 นาที เท่านั้น ออสเตรียเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน หลัง ดอนเยลล์ มาเลน ทำเข้าประตูตัวเอง จากนั้น เนเธอร์แลนด์เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับออสเตรียได้ จบครึ่งแรกตามหลังอยู่ 0-1

เปิดฉากครึ่งหลัง ได้แค่ 2 นาที เนเธอร์แลนด์ก็ตีเสมอได้จากการยิงของโคดี้ กักโป แต่ว่า...อีกไม่กีนาทีต่อมา ออสเตรียก็แซงอีกครั้งจาก โรมาโน่ ชมิด ในนาทีที่ 59 ทำให้ออสเตรียขึ้นนำอีกครั้ง เป็น 2-1

เนเธอร์แลนด์ไม่ยอมแพ้ ตีเสมออีกครั้งจากการยิงของเมมฟิส เดปาย ในนาทีที่ 76 แต่แค่ 5 นาทีเท่านั้น ออสเตรียก็มาได้ประตูที่ 3 จากการยิงของมาร์เซล ซาบิตเซอร์ ทำให้ออสเตรียขึ้นนำ 3-2 และจบลงด้วยสกอร์นี้ 

-------------

ฝรั่งเศส พบกับ โปแลนด์ (กลุ่มดี)

เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 จนกระทั่ง ครึ่งหลังฝร่ั่งเศสมาได้จุดโทษ ก่อนจะเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ สังหารให้ทีมขึ้นนำ 1-0 แต่...นาทีที่ 79 โปแลนด์ได้จุดโทษบ้าง ซึ่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สังหารเข้าไปเช่นกัน ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 และจบลงด้วยสกอร์นี้ 

จากผลการแข่งขัน ทำให้ฝรั่งเศส มี 5 คะแนน จาก 3 นัด เป็นรองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนโปแลนด์ ได้ 1 คะแนนจาก 3 นัด เป็นทีมบ๊วยของกลุ่ม

ส่วนผลอีกคู่ออสเตรีย ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-2 ทำให้ออสเตรียแซงคว้าแชมป์กลุ่มด้วยการมี 6 คะแนน ขณะที่เนเธอร์แลนด์ แม้จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มด้วยการมี 4 คะแนน แต่ก็เข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด

-------------