กีฬา

ดับฝัน 4 แชมป์ 'ดิยัลโล่' ฮีโร่ ยิงประตูชัยนาทีบาป พา 'แมนฯยู' เฉือน 'หงส์แดง' 4-3 ศึกเอฟเอ คัพ

โดย nattachat_c

18 มี.ค. 2567

112 views

วานนี้ (17 มี.ค. 67) มีการแข่งขันฟุตบอล ศึกเอฟเอ คัพ 2023-2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเป็นนัก 'แดงเดือด' 'ปีศาจแดง' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูล


ครึ่งแรก


เริ่มเกมมา เป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่ดูตื่นตัวมากกว่า และเป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ผู้มาเยือน ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ หลุดขึ้นมาในเขตโทษทางด้านซ้าย ก่อนยิงยัดติดเซฟของ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ทว่าปัดออกมาไม่ไกล ทำให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ตามซ้ำเข้าไปได้


จากนั้น เกมของลิเวอร์พูลค่อย ๆ ดีขึ้น จนเกือบตีเสมอได้จากจังหวะที่ วาตารุ เอ็นโด ยิงเข้าไป ทว่าถูกจับเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อน แต่ก็มาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 44 จากจังหวะลากขึ้นมาของจาเรลล์ ควอนซาห์ ถึงในเขตโทษ จ่ายให้ดาร์วิน นูนเญซ แตะให้อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ หวดเข้าไปอย่างสวยงาม ให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1

เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก โจ โกเมซ ไปไล่เบียดเอาบอลจากบรูโน่ แฟร์นันเดส มาได้ ก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษให้หลุยส์ ดิอาซ แทงให้กับดาร์วิน ล็อกเข้ามายิงจังหวะแรกติดเซฟ แต่เข้าทางโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ซ้ำเข้าไป จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลแซงนำ 2-1

------------

ครึ่งหลัง


ทั้งสองทีม เปิดเกมแลกกันอย่างสนุก จนกระทั่งถึงท้ายเกมนาทีที่ 87 แมนยูมาตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่บอลมาเข้าทางอันโตนี่ เทิร์นหนึ่งจังหวะก่อนจะพลิกมายิงเสียบมุมเข้าไป ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 2-2 ทำให้จบ 90 นาทีเสมอกันอยู่ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

------------

ช่วงต่อเวลาพิเศษ


เป็นฝั่งแมนยูที่ครองเกมได้ดีกว่า ขณะที่ ลิเวอร์พูลช็อตไปเลยหลังจากโดนตีเสมอได้ แต่กลับมาทำประตูขึ้นนำ 3-2 ในนาทีที่ 105 จากจังหวะที่ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองยิงไปแฉลบ คริสเตียน อีริกเซ่น เข้าประตูไป


อย่างไรก็ตาม แมนฯยูมาตีเสมอได้อีกครั้งในนาทีที่ 112 จากจังหวะที่ ดาร์วิน จ่ายบอลตัดขวางสนามพลาดโดนแม็คโทมิเนย์ตัดได้ก่อนจ่ายเร็วให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงเข้าไป ตีเสมอเป็น 3-3 ได้สำเร็จ


ช่วงนาทีสุดท้ายของเกมจังหวะสวนกลับของแมนยูอาหมัด ดิยัลโล่ หลุดขึ้นมาเดี่ยวๆ ก่อนจะยิงเข้าประตูให้แมนฯยูขึ้นนำ 4-3 แต่ดิยัลโล่ก็โดนใบเหลืองที่สองจากการถอดเสื้อดีใจ ทำให้เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป


อย่างไรก็ตาม ประตูดังกล่าวเป็นประตูชัยให้แมนยูเอาชนะลิเวอร์พูลสำเร็จ 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

--------------

'สิงโตน้ำเงินคราม' เชลซี พบกับ 'จิ้งจอกสยาม' เลสเตอร์ ซิตี้


เชลซีเป็นฝ่ายออกนำก่อน 2-0 ในครึ่งแรกจากมาร์ค คูคูเรย่า นาทีที่ 13 และ โคล พาลเมอร์ นาทีที่ 45+1 แต่ทว่าครึ่งหลังเลสเตอร์มาไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการทำเข้าประตูตัวเองของอักเซล ดิซาซี่ นาทีที่ 51 และสเตฟี่ มาวิดีดี้ นาทีที่ 62



อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนของเกมอยู่ในนาทีที่ 73 เมื่อ คัลลัม ดอยล์ ไปตัดฟาล์วนิโคลัส แจ็คสัน นอกกรอบเขตโทษในฐานะผู้เล่นตัวสุดท้าย ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป จากนั้นเชลซีบดอย่างหนักจนมาได้ 2 ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก คาร์นีย์ ชุควูเมก้า นาทีที่ 90+2 และนอร์ดี้ มาดูเอเก้ นาทีที่ 90+6


จบเกม เชลซีเอาชนะเลสเตอร์ ไปได้ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

--------------
ทั้งนี้ มีคลิปมากมายออกมาในโลกโซเชียล ที่แฟนคลับของแมนฯยู ได้ออกมาทำคลิปแสดงความดีใจแบบสุดเหวียง 


ซึ่งตรงข้ามกับ เจอร์เกน คล็อปป์ที่มีภาพทำหน้าเซ็งแบบสุดขีค 


ส่วน ฟานไดจ์ ได้โพสต์ไอจี บอกว่า ไม่ต้องโทษใคร นอกจากต้องโทษตัวเอง 

-------------- 

คุณอาจสนใจ

Related News