กีฬา

คอบอลลุ้น กสทช.ชี้ชะตา ค่าลิขสิทธิ์บอลโลก 9 พ.ย.นี้ 'ให้ทั้งหมด-ให้บางส่วน-ไม่ให้เลย'

โดย nattachat_c

9 พ.ย. 2565

146 views

วันนี้ (9 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. บอร์ด กสทช.จะมีการจัดประชุม กรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำหนังสือขอให้ กสทช. พิจารณาสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เป็นจำนวนเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์ 38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,421,200,000 บาท 


นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ทาง กสทช.ได้รับเอกสารจากทาง กกท. แล้ว แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติมจากครั้งก่อน เท่ากับว่าวงเงิน 1,600 ล้านบาทนั้น เป็นค่าลิขสิทธิ์ล้วนๆ 


เหมือนเรามีลูก มาขอเงิน 10,000 บาท แต่พอถามกลับว่าเอาไปทำอะไรบ้างกลับตอบไม่ได้ ตอนนี้ บอร์ด กสทช.หนักใจ และเหนื่อยมาก ดังนั้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน บอร์ด กสทช. อาจจะให้ทั้งหมด ให้บางส่วน หรือไม่ให้เลย ก็เป็นไปได้เช่นกัน


ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เราจะใช้งบประมาณอย่างประหยัดที่สุด และคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ได้ราคาที่มีความเหมาะสม ไม่ให้ใครมาเอาเปรียบประเทศไทย


ตอนนี้เราก็ประเมินในตัวเลขต่างๆ ถ้าเกิดมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในเมืองไทยจะมีการตื่นตัว ตัวเลขของกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดช่วงฟุตบอลโลก 2022 จะมีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้าน นั่นคือสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับจากกิจกรรมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เช่น ร้านอาหารทำกิจกรรมได้ มหาวิทยาลัยต่างๆ สามารถที่จะเผยแพร่ให้เด็กได้ดู ซึ่งตรงนี้ก่อให้เกิดรายได้ต่างๆ

-------------

วานนี้ (8 พ.ย. 65) คณาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ และ ผศ.ดร.มรรยาท อัครจันทโชติ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ แถลงข่าวคัดค้านการนำเงินของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ของ กสทช. ไปใช้สนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022


รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 เรื่องคือ

  • คนไทยควรได้ชมฟุตบอลโลก เพราะเป็นกีฬารายการสำคัญที่คนไทยติดตามเยอะมาก และมีการถ่ายทอดสดต่อเนื่องยาวนาน
  • แต่ กสทช.ไม่ควรนำเงิน กทปส. มาใช้ซื้อลิขสิทธิ์ เพราะผิดวัตถุประสงค์ และงบค่อนข้างสูงมาก กระทบความมั่นคง และสภาพคล่องของกองทุนที่จะเหลือเงินในบัญชีที่ 1 ราว 2,000 ล้านบาท และบัญชีที่ 2 อีกกว่า 800 ล้านบาท


เงิน กทปส. ที่หายไปจะส่งผลกระทบต่อภารกิจ แผนงาน และโครงการของ กสทช. ซึ่งมีนโยบายสำคัญ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสื่อ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ กสทช.ไม่ควรแทรกแซงเนื้อหารายการ ซึ่งควรจะเน้นรายการเฉพาะกลุ่มที่ไม่อาจหารายได้ได้ มากกว่าจะสนับสนุนเงินจำนวนมากในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่ไม่สามารถหารายได้ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้


ผศ.ดร.มรรยาท อัครจันทโชติ กล่าวเสริมว่า หากเราไปดูวัตถุประสงค์กองทุน กทปส. คือการสนับสนุนเรื่องการเข้าถึงบริการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่างทั่วถึง โดยทั่วถึง ในที่นี้หมายถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่นโครงข่าย สัญญานอินเทอร์เน็ต รวมถึงรายการบางประเภทที่ถ้าไม่สนับสนุนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น รายการเด็ก, ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส


ดังนั้น ฟุตบอลโลกไม่ได้เข้าวัตถุประสงค์ ซึ่งอาจจะต้องลองหาวิธีการแก้ไข เช่น อาจจะมีภาคเอกชนให้ความสนใจ แต่อาจจะติดเรื่องของกฎมัสต์แฮฟ ทำให้ไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน ตรงนี้ถ้าสามารถปลดล็อกได้ ซึ่งคณะกรรมการมีอำนาจที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงปลดล็อกระยะสั้นเฉพาะกรณี ก็อาจจะทำให้มีเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนในส่วนนี้ด้วยก็เป็นได้


ส่วนกรณีที่มองว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกสามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3-4 หมื่นล้านบาทนั้น ถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมเอกชนไม่กล้าลงทุน


ถ้ามติของบอร์ด กสทช. ยังอนุมัติงบ 1,600 ล้านบาท เราก็คงรู้สึกผิดหวัง และต้องจับตามองติดตามกับการใช้เงินดังกล่าวว่าไปเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดหรือไม่

--------------

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ที่ปรึกษาประจำประธานกรรมการ กสทช. ได้กล่าวว่า งบของ กทปส.นั้นมีจำกัด ถ้าจะมีสบทบจากกองทุนอื่น เช่น กองทุนพัฒนากีฬา และร่วมกับเอกชนด้วย ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี และเท่าที่ทราบ กกใ.ชี้แจงว่า ถ้าไทยจะซื้อ ต้องเซ็นสัญญาในวันที่ 10 พ.ย. 65


ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กกท. มีความตั้งใจที่จะทำให้ประชาชนชาวไทยได้ดูการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เพราะเป็นมหกรรมกีฬาสำคัญจริงๆ แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติด้วย ใช้งบประมาณอย่างประหยัดที่สุด และคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด


เรากำลังดู และทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ได้ราคาที่มีความเหมาะสม หมายความว่าเราก็เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านให้ใกล้เคียงกันด้วย ไม่ให้ใครมาเอาเปรียบประเทศไทย ฉะนั้นตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และฟีฟ่า เองต้องอธิบายได้ว่า ไม่มีการแบ่งแยก ไม่ใช่ว่าประเทศไทยมาช้าก็เลยได้ราคาสูง อันนี้ยอมไม่ได้ รับไม่ได้ 


ตัวเลขของกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดช่วงฟุตบอลโลก 2022 จะมีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้าน นั่นคือสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับจากกิจกรรมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เช่น ร้านอาหารทำกิจกรรมได้ มหาวิทยาลัยต่างๆ สามารถที่จะเผยแพร่ให้เด็กได้ดู ซึ่งตรงนี้ก่อให้เกิดรายได้ต่างๆ


อย่างไรก็ตาม เราจะลงทุนอะไรก็ตามก็ต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะปัจจุบันประเทศไทยก็ไม่ได้มีเงินมหาศาลอะไร ประกอบกับภาคเอกชนเองยังมีกำลังไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ กกท. พยายามทำก็คือ เข้ามาเพื่อให้เราได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด และหากับภาคเอกชนเข้ามาช่วยเพื่อลดภาระภาครัฐ

--------------

วานนี้ (8 พ.ย. 65) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายนโยบาย ให้ความเห็นค้านการที่ กสทช. เตรียมใช้เงินกองทุนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเป็นเงินกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเงินที่แทบจะแพงที่สุดในโลก โดยกล่าวว่า การตัดสินใจใช้เงินกองทุนของ กสทช. ในครั้งนี้เป็นการทำผิดกฎหมาย เพราะตามกฎหมายแล้ว เงินกองทุนไม่ได้อนุญาตให้เอาไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก


ทั้งนี้ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่าต้องขอวิงวอน กสทช. ให้ทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะองค์กรอิสระ ไม่อยู่ใต้คำสั่งหรือใบสั่งจากใคร ที่ผ่านมาเราเห็นแล้วจากกรณีที่ตัดสินใจเอื้อกลุ่มทุนในกรณีควบรวมทรู-ดีแทค ไม่ยอมใช้อำนาจของตัวเองเพื่อหยุดยั้งการผูกขาดของประชาชน


มาครั้งนี้ก็ได้อีกใบสั่งจาก พล.อ.ประวิตร ที่พูดใน ครม. ไม่อยากรบกวนเอกชน จึงรีบกระวีกระวาดล้วงเงินในกระเป๋าตนเองมาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอล ซึ่งเงินส่วนนี้ ทั้งๆ ที่เงินส่วนที่นี้ คือเงินสำหรับการเข้าถึงดิจิทัลของเด็ก คนพิการ คนชรา


กสทช. ต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาได้แล้ว ไม่ควรบิดเบือนกฎหมายเพื่อเอาใจใคร หรือทำตามใบสั่งใคร ไม่อย่างงั้น ประชาชนต้องเป็นผู้รับภาระเงิน 1,600 ล้านบาทในครั้งนี้ เราอยากให้การดูฟุตบอลโลกฤดูกาลนี้เป็นการช่วงเวลาแห่งความสุข อย่าให้ที่มาของเงินในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาจากวิธีการที่ไม่ชอบธรรมที่เบียดบังผลประโยชน์ของประชาชนอย่างนี้เลย

--------------

วานนี้ (8 พ.ย. 65) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการจัดถ่ายทอดศึกฟุตบอลโลก 2022 หลัง กสทช.เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 1600 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดเอง แต่ปรากฏว่ามีการคัดค้านไม่ให้ใช้งบประมาณดังกล่าว ให้หาบริษัทเอกชนเป็นคนจัดถ่ายทอดฟุตบอล จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแผนหรือไม่ โดยพลเอกประวิตร กล่าวว่า "คุณไปช่วยหาสิ"

คุณอาจสนใจ

Related News