กีฬา
มองอย่างเพชร EP.10 ที่สุดของการคัมแบ็ก! ทัพยกน้ำหนักไทยผงาด กวาด 3 เหรียญโอลิมปิก
โดย petchpawee_k
14 ส.ค. 2567
54 views
เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับสมาคมยกน้ำหนักภายใต้การดูแลของ "เสธ.ยอด" พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯแห่งประเทศไทย ที่โอลิมปิกหนนี้ทัพลูกเหล็กไทย กวาดมาได้ถึง 3 เหรียญ 2 เหรียญเงิน 1 ทองแดง จากการแข่งขัน 4 รุ่น
ได้เหรียญเงินจาก “ฟ่าง” ธีรพงศ์ รุ่น 61 กก.ชาย และ “เวฟ” วีรพล รุ่น 73 กก.ชาย และ 1 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา รุ่น 49 กก.
หลังจากโอลิมปิกครั้งก่อนที่ โตเกียว เกมส์ 2020 ทัพยกลูกเหล็กไทยไร้เหรียญเนื่องจากถูกแบนไม่ให้ร่วมการแข่งขัน เนื่องจากตรวจเจอสารต้องห้ามในร่างกายของนักกีฬา
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2018 เมื่อสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF ได้ตรวจพบว่า นักกีฬาไทยที่ลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์โลกมีสารต้องห้ามภายในร่างกาย
หลังจากตรวจสอบในปี 2020 ทาง IWF ได้สั่งลงโทษแบนทีมชาติไทย เป็นเวลา 3 ปี ห้ามส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในทุกรายการ
ทางสมาคมยกน้ำหนักยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะใช้สารต้องห้ามแต่อย่างใด แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นักกีฬาไม่ได้มีการกิน ดื่ม หรือฉีดสารต้องห้าม สิ่งที่นักกีฬาทำมีการใช้เจลทานวดคลายกล้ามเนื้อตามปกติเท่านั้น แต่ไม่ได้เอะใจหรือทราบมาก่อนว่าการทายานวดภายนอกตัวยาจะซึมเข้าไปและออกฤทธิ์ได้
สมาคมยกน้ำหนักได้พยายามต่อสู้พร้อมยื่นอุทธรณ์โทษต่อศาลกีฬาโลกอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี 2021 ศาลกีฬาโลกรับอุทธรณ์ และพิจารณาลดโทษแบนให้ไทยจาก 3 ปีเป็น 2 ปี ทำให้ไทยสามารถลับมาส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติได้อีกครั้งในปี 2022
แม้จะถูกแบนหายไปนาน จนกระแสเงียบหาย แทบไม่มีใครพูดถึง แต่พอกลับมาโอลิมปิก 2024 ผลงานก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนน้อยลงไปกว่าเดิมเลย ทีมยกลูกเหล็กไทยยังคงฝากความหวังไว้ได้เสมอ
แม้ดูจากรายชื่อนักกีฬาคนที่เข้าร่วมปารีสเกมส์หนนี้อาจจะไม่ได้ชื่อดังหรือมีกระแส แต่ถ้าดูจากเกียรติประวัติของพวกเขา ต้องบอบกว่าไม่ธรรมดา เพราะทุกคนล้วนมีเหรียญการันตี จากการแข่งยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์เอเชียมาแล้วทั้งสิ้น
อย่างเช่น ฟ่าง ธีรพงศ์ ก็เป็นเจ้าของเหรียญทองยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกปี 2022 รุ่น 55 กก. พอปี 2023 ก็ทำหนักหนักมาแข่งรุ่น 61 กก. คว้าเหรียญทองแดงศึกชิงแชมป์เอเชีย
ส่วน เวฟ วีรพล เป็นเจ้าของเหรียญทองทั้งรายการชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์เอเชีย ปี 2023 และเป็นเจ้าของเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ที่หางโจวเมื่อปีที่แล้วด้วย
เช่นเดียวกับ ออย-สุรจนา ที่ คว้า 3 เหรียญทองจากรายการชิงแชมป์โลก และคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2022 มาครอง ต้องบอกว่าทั้ง 3 คน จริงๆแล้วทำผลงานดีมาโดยตลอด ก่อนจะมาประเดิมโอลิมปิกครั้งแรกของตัวเอง
ถามว่าทำไมหายไปนานแต่ทัพยกลูกเหล็กของเรายังปังเหมือนเดิม ก็ต้องพูดแบบเต็มปากเต็มคำเลยว่า นั่นเพราะ “เราโดนแบนไม่ให้แข่งขัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราโดนแบนห้ามซ้อม”
ตลอดระยะเวลาที่หายไป นักยกลูกเหล็กของไทยเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก เตรียมความพร้อมทั้งสภาพร่างกายแลจิตใจอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องทำแร้งกิ้งควอลิฟายเข้าไปเล่นโอลิมปิก มีการซุ่มซ้อมและเก็บสถิติไว้เป็นความลับ ไม่ให้คนภายนอกรู้
เมื่อต้องลงแข่งขันรายการอีเวนต์ก่อนโอลิมปิก ทางสมาคมจะปล่อยของเท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะเลือกแค่รายการชิงแชมป์โลกและชิงแชมป์เอเชียที่ใส่สุด ส่วนรายการกรังปรีซ์อื่นๆ จะใส่น้ำหนักไม่สุด ก็เพื่อให้นักกีฬาได้รักษาสภาพร่างกายให้ฟิตพร้อมสมบูรณ์ที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิก
และอีกแท็กติกที่วางไว้คือ ให้แสงสาดมาถึงนักกีฬาให้น้อยที่สุด ไม่ต้องการเป็นกระแส เพื่อที่นักกีฬาจะได้ไม่กดดัน ไม่ต้องแบกรับความคาดหวังของใคร เมื่อถึงเวลา แค่ออกไปทำผลงานให้ดีที่สุดอย่างที่ซุ่มซ้อมมา
นี่ก็เลยทำให้ผลงานของทัพยกลูกเหล็กของไทยกลับมาปังในโอลิมปิกหนนี้ ซึ่งทั้งหมดต้องยอมรับและชื่นชมเลยว่า ทางสมาคมยกน้ำหนักวางแผนรับมือและเตรียมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี
ถึงแม้จะโดนห้ามแข่งขัน แต่ก็ไม่อยู่เฉย เก็บตัวซุ่มซ้อมแบบเงียบๆ ซุ่มปั้นนักกีฬาหน้าใหม่ๆขึ้นมา ข่าวสารต่างๆเก็บเงียบให้คนรู้น้อยที่สุด รอวันที่พ้นมลทิน แล้วปล่อยให้ผลงาน “พูด” ด้วยตัวมันเอง
ชมคลิป
แท็กที่เกี่ยวข้อง มองอย่างเพชร ,โอลิมปิก ,ยกน้ำหนัก ,คัมแบ็ก ,เหรียญโอลิมปิก ,ทัพยกน้ำหนัก