มองอย่างเพชร EP.8 จากสวนสาธารณะข้างบ้าน สู่เหรียญทองโอลิมปิก ของสาวน้อยมหัศจรรย์ ‘โคโค่ โยชิซาวะ’

ในวัย 14 ปี ทุกคนทำอะไรกันอยู่ ? แต่น้องคนนี้ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกแล้วสำหรับ “โคโค่ โยชิซาวะ” สาวน้อยมหัศจรรย์วัย 14 ปี

ถ้าใครได้ดูการแข่งขันสเก็ตบอร์ดหญิงประเภทสตรีท ทุกคนคงได้เห็นสกิลและหัวจิตหัวใจที่แข่งแกร่งของน้องไปเรียบร้อยแล้ว  ในขณะที่เหลือ อีก 2 Trick สุดท้ายเธอตัดสินใจเล่นท่ายากจนทำคะแนนปาดหน้า “ลิซ อาคามะ” เพื่อนร่วมชาติที่มีคะแนนนำ คว้าเหรียญทองไปครองแบบสุดมัน

สิ่งที่ทำให้ “โคโค่” คว้าแชมป์ในครั้งนี้ต้องบอกว่า “ใจล้วนๆ”  เธอนิ่งมาก ไม่มีแววตากดดันเลยมีแต่ความมุ่งมั่น เธอจะเลือกเล่นเพลย์เซฟก็ได้ เพื่อเมคชัวร์ให้ติดเหรียญ แต่ไม่เธอไม่เลือกทางนั้น เมื่อมาแล้วโอลิมปิกครั้หนึ่งในชีวิต ก็ใส่ให้สุดไปเลย

เธอเลยเลือกเล่นท่ายากแบบสุดๆ อย่าง “บิ๊กสปิน ฟลิปฟรอนท์ บอร์ด สไลด์” คือ ท่าที่สเกตบอร์ดหมุน 270 องศาไม่พอ ยังพลิกกลับ บน-ล่าง อีก 1 รอบ บนราวเหล็กเล็กๆ ซึ่งเธอทำมันได้สมบูรณ์แบบที่สุด สองเท้าแตะที่บอร์ดลงบนพื้นได้อย่างสวยงาม

เอาแค่ท่า “บิ๊กสปิน” ธรรมดาที่ สเกตบอร์ดต้องหมุน 270 องศาก่อนไต่ลงราวบันได ใครๆก็บอกว่ายากแล้ว แต่ท่าที่เธอเล่นมันรีโวลูชั่นดับเบิลยากขึ้นไปอีก สำหรับเด็กหญิงที่อายุ 14 ปีเท่านั้น

แต่จริงๆแล้วท่า “บิ๊กสปิน” เนี่ย เธอทำได้ตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้ว ซึ่งตอนนั้นน้องเพิ่งอยู่ ป.5 และกำลังเล่นสเก็ตบอร์ด ที่สวนสาธารณะอยู่แถวบ้าน

“โคโค่ โยชิซาวะ ” เริ่มเล่น สเก็ตบอร์ดตอน 7 ขวบ จุดเริ่มต้นก็แค่เดินๆอยู่แถวสวนสาธารณะปกติเลย แล้วเห็นคนเล่นสเก็ตบอร์ดกันอยู่ เลยอยากลองเล่นบ้าง จากนั้นเธอก็ฝึกฝนมาเรื่อยๆกับคุณครูที่สอนสเก็ตบอร์ดที่สวนสาธารณะนั่นแหละโดยมีจุดประสงค์แค่อยากเล่นเพื่อความสนุกเท่านั้น ไม่ได้คิดจะไปแข่งขันหรืออะไร  เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสเก็ตบอร์ดถูกบรรจุในโอลิมปิก  แต่อย่างว่าคนมีพรสวรรค์ สักวันต้องมีจุดพลิกผัน ทำให้โลกได้เหนพรสวรรค์ของเธอ

ในปี 2020 ช่วงโควิด เธอก็หันมาจริงจังกับการฝึกมากขึ้น และแล้ววันหนึ่งโคโค่มานั่งดูโอลิมปิกกับคุณพ่อ ระหว่างที่ “โมมิจิ นิชิยะ” แข่งขันอยู่ นิชิยะได้เล่นท่า “บิ๊กสปิน” จนส่งให้เธอคว้าเหรียญทองไปครอง  คุณพ่อของโคโค่เห็นดังนั้นก็พูดขึ้นมาว่า "นั่นมันท่าเดียวกับที่ลูกทำได้เลยนิน่า  งั้นลูกก็ลงแข่งโอลิมปิกได้สิ"

นิชิยะทำท่านี้ได้ตอนอายุ 13 ในโอลิมปิก แต่โคโค่ทำมันได้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ป.5 ตอนอายุ 11 ขวบเท่านั้น และเธอทำมันได้เป็นเรื่องปกติด้วย นั่นเลยจุดประกาย ให้โคโค่ขึ้นมาทันที จากที่เล่นขำๆ ไม่ขำแล้ว เธอเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง และมีเป้าหมายคือการได้ไปแข่งขันโอลิมปิกสักครั้ง เธอฝึกหนักหลังเลิกเรียนทุกวันๆละ 5 ชม.จากนั้นก็ตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนทั่วโลก

ด้วยพรสวรรค์ของโคโค่ ส่งให้เธอกระโดดขึ้นมาครองมือ 1 ของโลก ภายใน 3 ปี ตั้งแต่เริ่มเล่นอย่างจริงจังและผ่านการคัดเลือกเข้ามาเล่นโอลิมปิกหนนี้ในฐานนะตัวเต็งทันที

ในตอนแรกโคโค่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายใหญ่ มากดดันตัวเองหรืออะไร น้องบอกว่า เพราะการซ้อมมันหนักมากๆอยู่แล้ว ก็เลยอยากสนุกกับการแข่งขัน และโชว์ให้ทุกคนได้เห็นสกิลของเธอที่ฝึกมาอย่างหนัก ดังนั้นตลอดการแข่งขันเราเลยจะเห็นน้องเล่นแบบไม่เครียด ตั้งใจแต่ไม่กดดัน พลาดก็ไม่เสียใจ ยิ้มสู้ไม่เป็นไรรอบหน้าเอาใหม่

และใน Trick  ที่ 4 ที่ตัดสินใจเล่นท่ายากขนาดนั้นโคโค่บอกว่า ณ วินาที  นั้นเป้าหมายของเธอ คือต้องเป็นที่ 1 แล้วไม่ใช่ที่ 2 หรือที่ 3 แล้ว ประมาณว่า จะ Go big or go home ถ้าไม่ใส่สุดก็กลับบ้านไปเลย และถ้าอยากชนะก็ต้องเลือกเล่นท่ายากที่สุดเท่านั้น เธอเลยเล่นท่านี้ ซึ่งท่า “Big spin flip front board slide” เธอไม่ได้ซ้อมมาก่อนด้วย บทพอจะทำได้ก็ได้เลย น้องเลยภูมิใจมากๆ

เห็นสตอรี่ของเธอต้องบอกว่าพล็อตเรื่องเหมือนการ์ตูนมากๆ แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในโอลิมปิกครั้งนี้...