ข่าวโซเชียล
ชาวเน็ต-สัตวแพทย์ วิจารณ์เดือด! ละคร 'แม่หยัว' วางยาสลบแมว คนดังร่วมแบน
โดย passamon_a
10 พ.ย. 2567
274 views
วิจารณ์เดือด กองละครแม่หยัว วางยาสลบแมวเข้าฉาก สัตวแพทย์แห่คอมเมนต์ อันตรายต่อชีวิตแมวมาก ด้านผู้กำกับโพสต์แจงแล้ว ส่วนคนดังร่วมแบนละคร
จากกรณีละครเรื่องแม่หยัว ที่มีฉากแมวดำกินยาน้ำที่ผสมยาพิษแล้วตาย โดยแมวที่เข้าฉาก เมื่อกินน้ำแล้วก็มีอาการกระตุกหลายครั้ง ร้อง ขย้อน และนิ่งไป ทำให้ชาวโซเชียลตั้งคำถามกับฉากดังกล่าวว่าทำอย่างไร แมวจึงชักกระตุกแบบนั้น และแมวตัวดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จนกระทั่งผู้ใช้ X ชื่อ @mollyone9 หรือ จ๋า โมฬีวรรณ นักแสดงในเรื่อง (รับบททองดี) โพสต์เฉลยข้อสงสัยว่า
“น้องแมวไม่ได้ตุยจริงน๊า เราวางยาสลบแมว แต่ตอนถ่ายทำ แล้วน้องขย้อน กระตุกๆ คือนึกว่าตายจริง ป้าจ๋ากับน้องเฟิร์นหน้าถอดสี ตกใจจริงๆ” ซึ่งในโพสต์นี้ บิ๊นท์-สิรีธร นักแสดงอีกคน (รับบทละอองคำ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์) เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ต้องมีชื่อเข้าชิง!!” ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ซึ่งต่อมา แอคเคาต์ @mollyone9 ลบบัญชีตัวเองไปแล้ว
เรื่องดังกล่าวทำให้หลายคน รวมถึงสัตวแพทย์ออกมาตั้งคำถามว่า ทำไมกองถ่ายถึงเลือกวิธีนี้ และแสดงความเป็นห่วง อย่างเช่น ผู้ใช้ x ชื่อ alknot ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ โพสต์ว่า
“การวางยาสลบทุกครั้งถือว่ามีความเสี่ยงต่อชีวิตสัตว์ เพราะยาจะกดการทำงานของระบบหายใจและไหลเวียนเลือด นอกจากนี้อาจสำลักได้ เพราะสัตว์ควบคุมการอาเจียนไม่ได้ รวมถึงยาซึมเหนี่ยวนำให้อ้วก ดังนั้นก่อนวางยาจึงควรตรวจร่างกาย อดอาหาร4-6 ชม. และมีการติตตามสัญญาณชีพ
และระหว่างวางยาต้องมีการสอดท่อช่วยหายใจ แทงเส้นน้ำเกลือเพื่อคงความดันเลือดและเผื่อในกรณีฉุกเฉิน เช่น หัวใจหยุดเต้นขณะวางยา มอนิเตอร์การหายใจ การเต้นของหัวใจ รวมถึงอุณหภูมิขณะวางยาเพราะขณะสลบ สัตว์จะควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ได้
ซึ่งในปัจจุบัน ปี 2024 จะ 2025 แล้ว ในฐานะคนเสพหนัง เราเห็นทางเลือกอื่นๆ ที่ humane ต่อสัตว์ในกองถ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้พรอพ การใช้ CGI หรือแม้แต่การฝึกสัตว์ด้วยเทคนิค positive reinforcement ไม่ต้องใช้วิธีที่ทารุณและเสี่ยงตายแบบนี้ เลยอยากรู้ว่า ในกองถ่ายทำไมถึงเลือกวิธีนี้ มีวิสัญญีสัตวแพทย์ดูแลตั้งแต่ก่อนวางยา ระหว่างสลบ จนถึงเฝ้าฟื้นหรือไม่ ได้ตรวจเลือดตรวจร่างกายและอดอาหารอย่างเหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่ ขออัญเชิญสัตวแพทยสภาลงด่วนครับ
ต่อให้มีสัตวแพทย์ดูแล แต่การวางยาสลบเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการวินิจฉัยหรือรักษาโรคหรือเพื่อการจับบังคับสัตว์ดุร้ายก็ถือว่าผิด welfare อยู่ดี เพราะฉะนั้น มีหรือไม่มีหมอ หรือมีแต่เป็นหมอเถื่อนไม่มีใบประกอบ สัตวแพทยสภาก็ฟันหัวแบะได้อยู่ดี”
ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊ก Justman ซึ่งเป็นเพจที่เขียนบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ อนิเมชั่นต่าง ๆ ก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทำนองเดียวกัน พร้อมกับตั้งคำถามว่า ตอนนี้แมวตัวดังกล่าวเป็นอย่างไร และแม้จะเป็นแมวจร แต่กรณีนี้ถือเป็น 'สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้ในการแสดง' ซึ่งถูกคุ้มครองโดย พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และการวางยาสลบเพื่อมาแสดงก็ไม่น่าจะเข้าข้อยกเว้นได้ พร้อมเรียกร้องให้ทีมงานละครเรื่องดังกล่าว ออกมาชี้แจง เพราะคนที่รักและเลี้ยงแมว รู้สึก Sensitive กับฉากนั้นมาก ๆ
ประเด็นดังกล่าว ทำให้แฮชแทค “แบนแม่หยัว” ขึ้นเทรนด์ x พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนกระทั่ง สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับผู้กำกับการแสดง ซีรีส์เรื่องแม่หยัว ออกมาโพสต์คลิปพร้อมข้อความ “อัปเดตน้องแมว” ระบุว่า
“จากที่มีหลายท่านกังวลเรื่องการถ่ายทำที่เกี่ยวกับน้องแมว ขอเรียนชี้แจงดังนี้
1. การถ่ายทำมีการวางยาสลบจริง แต่ได้รับการดูแลจากเจ้าของและผู้เชี่ยวชาญอย่างดีในทุก ๆ ขั้นตอน
2. หลังการถ่ายทำ น้องแมวฟื้นขึ้นมาและใช้ชีวิตเป็นปกติ และทีมงานได้มีการขอคลิปสุขภาพน้องแมวให้ส่งมาดูหลังจากวันถ่ายทำอีกหลายครั้ง
3. แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เมื่อทราบเรื่องวันนี้ ทางทีมได้มีการติดต่อโมเดลลิ่งสัตว์ที่ดูแลรับผิดชอบ ให้ถ่ายคลิปอัพเดทของวันนี้ (9 พ.ย.67) และให้นำแมวไปตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันถึงสุขภาพแมวอีกครั้ง
4. เมื่อทราบถึงความกังวลใจ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อมาชี้แจง ส่วนใบรับรองแพทย์จะนำมาให้ทุกท่านดูอีกครั้งเมื่อตรวจสุขภาพน้องแมวเสร็จเรียบร้อย”
พร้อมกันนี้ ได้โพสต์คลิปแมวดำตัวหนึ่ง ซึ่งมีอาการปกติดี
ขณะที่ เพจสัตวแพทยสภา ประเทศไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยระบุว่า "ตามที่มีหลายท่าน ได้ส่งภาพของแมวซึ่งปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดียขณะนี้ และมีข้อกังวลจากการอ้างถึงว่าอาจมีการใช้ยาสลบ ในการถ่ายทำละคร ทางสัตวแพทยสภา ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป"
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.67 ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ หมอวี นายสัตวแพทย์ ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ภาพที่ปรากฏออกมาจะเห็นว่าแมวในเรื่อง มีอาการขย้อน (อาการคลื่นไส้) ชักกระตุก (เกิดการจากเกร็งของขากรรไกรปาก) ทั้งหมดเรียกง่าย ๆ ว่าอาการเหมือนใจจะขาด และมันคือผลข้างเคียงของการใช้ยา
โดยคาดว่าแมวตัวนี้น่าจะโดนวางยาก่อนเข้าฉาก 15-20 นาที ซึ่งอันตรายมาก เพราะการวางยาสลบทุกครั้งแม้จะทำในโรงพยาบาลสัตว์ก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วจากภาะแทรกซ้อน โดยใน รพ.สัตว์ จะมีมาตรการป้องกันการหยุดหายใจ คือการใช้ท่อสอดลงไปในคอเพื่อให้สามารถหายใจได้ และป้องกันไม่ให้มีเศษอาหาร หรือลิ้นไปจุกปิดปังหลอดลม
แต่ในภาพในละครที่เห็น แมวมีอาการคลื่นไส้ ชักกระตุก คาดว่ามาจากเจ้าของแมว ไม่ได้งดน้ำและอาหาร พอแมวได้รับยาสลบเข้าไปในร่างกาย ปกติแมวจะมีปฏิกิริยาเร็วมาก คือระบบจะสั่งการให้ขับสารพิษออกจากร่างกาย โดยการพยายามสำรอกออกมา ซึ่งตรงนี้อันตรายมากที่สุดเพราะถ้าหากมีอาหารที่กำลังจะไหลออกมาไปอุดตันหลอดลม ขณะที่ร่างกายหมดสติก็ทำให้ตายได้ (ขาดอากาศหายใจตาย)
สำหรับการวางยาสลบนี้ไม่สามารถใช้แบบพร่ำเพรื่อ หรือเพื่อการบันเทิงได้ แม้จะทำโดยสัตว์แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ แต่เพื่อการบันเทิงก็ไม่ได้ และถือว่าเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ ส่วนจะผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่นั้นต้องเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการจริยธรรม เพราะการใช้ยาสลบทุกครั้งจะต้องใช้เมื่อมีเหตุอันจําเป็นเท่านั้น เช่น การวางยาเพื่อทำการผ่าตัด หรือการทําหัตถการที่ต้องระงับประสาท ถ้านำไปใช้แบบทั่วไปก็จะเป็นอันตรายกับสัตว์ได้
ส่วนที่มีการบอกว่าหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ใช้ปืนยิงยาสลบ หรือการวางยาสลบหมาแมวยังทำได้เลย ต้องขอตอบว่า ในการยิงยาสลบทุกครั้งจะมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่ถูกมอบหมายโดยสัตวแพทย์ไปด้วยทุกครั้ง และการวางยาสลบนั้นไม่ได้เป็นการวางยาเพื่อความบันเทิง แต่เป็นการวางยาตามภารกิจ เช่น การคุมกำเนิดหมาแมวจรจัด จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้
ด้าน ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า “# ในฐานะที่ฉันก็มีหมาดำ หมาแมวสีดำก็มีชีวิตจิตใจ การที่คุณบอกวางยาสลบแมวเพื่อเข้าฉาก โห…พูดไม่ออก ถ้านอกจากการรักษาไม่ควรเลย แล้วแมวมีเจ้าของคงไม่มีใครยอม(ถ้ายอมก็ยอมใจ)...
ถ้าเอาแมวจรมาแปลว่าคุณก็ไม่สนว่ามันจะเป็นยังไง แล้วต้องมีผู้เชี่ยวชาญวางยาให้ใช่ไหม !? …ฟื้นแล้วก็ปล่อยไปตามยถากรรมงั้นหรือ !?
ผมขอ # ร่วมต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ ครั้งนี้ ถึงละครเรื่องนี้ผมจะไม่ได้ดู แต่ก็ขอแสดงจุดยืน… และเป็นกระบอกเสียง # แบนแม่หยัว ครับ”
ส่วน แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร นักร้อง โพสต์อินสตาแกรมระบุว่า “ไม่ทราบว่าเอาอะไรมาคิดคะ แมวไม่ใช่นักแสดงสมทบ หรือสตั๊นท์ ที่เขาสมัครใจมาทำงานด้วยตัวเอง แมวพูดไม่ได้ ไม่มีทางสู้… นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำกันได้ขนาดนี้ ความโกรธเป็นสิ่งไม่ดี..ใช่ค่ะ… แต่ตอนนี้ดูจิตไม่ทันแล้ว มโนกรรมแช่งชักหักกระดูกพุ่งล่วงหน้า ออกนอกจิตไปแล้ว นี่เขียนไปยังมือสั่นไป …. น้ำตาซึม หมดคำจะพูด ให้สุภาพกว่านี้แล้วค่ะ
# แบนแม่หยัว # แบนการทารุณสัตว์ ไม่ดู(โว้ยยย) ค่ะ!! ขอให้….. เจริญเจริญ !!$<%*!!?^¥&; เจริญทางไหนแล้วแต่บาปกรรมใครกรรมมัน ขอให้ได้อย่างที่ “อยาก” ก็ละกัน ชีวิตอื่นช่างมัน…. เช็ดดดด…(แปลว่าทำความสะอาด…ละกัน)”
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dCw_1dHsN7A
แท็กที่เกี่ยวข้อง แม่หยัว ,วางยาสลบแมว